นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน กล่าวว่า หากเงินในกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมีแนวโน้มจะลดลงเหลือต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาทก่อนสิ้นเดือนเม.ย. จากการที่ต้องเพิ่มเงินเข้าไปชดเชยราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาท/ลิตรนั้น ในการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายเชื้อเพลิงแห่งชาติ(กพช.)ครั้งต่อไป กระทรวงพลังงานจะเสนอมาตรการอื่นเพิ่มเติมเพื่อช่วยตรึงราคาน้ำมันดีเซล นอกเหนือไปจากการใช้เงินจากกองทุนน้ำมันฯ เพียงอย่างเดียว เช่น มาตราการลดภาษีสรรพสามิตรน้ำมัน และการปรับเพิ่มเพดานการตรึงราคาดีเซลให้สูงกว่า 30 บาท/ลิตร
ทั้งนี้ มองว่าสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกยังมีความน่าเป็นห่วง เนื่องจากสถานการณ์ความตรึงเครียดในตะวันออกกลางมีการปลุกระดมในคูเวต และโอมาน ขณะที่สถานการณ์ในลิเบีย ยังไม่มีทีท่าจะสงบลงโดยง่าย โดยราคาน้ำมันในช่วงเวลานี้มีความผันผวนรุนแรงทั้งในตลาดดูไบ, เบรนท์ และเวสเท็กซัสที่ยังปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศ โดยเฉพาะราคาน้ำมันดีเซลที่มีโอกาสปรับราคาขึ้นอีก แต่กระทรวงพลังงานจะยังตรึงราคาน้ำมันดีเซลไว้ที่ 30 บาท/ลิตรต่อไปถึงเม.ย.นี้
รมว.พลังงาน กล่าวด้วยว่า ขณะนี้กระทรวงพลังงานอยู่ระหว่างการติดตามสถานการณ์ผลผลิตปาล์มน้ำมันในท้องตลาดว่ามีเพียงพอต่อการบริโภคอย่างแท้จริงหรือไม่ ซึ่งหากมีปริมาณเพียงพอและไม่กระทบต่อการผลิตน้ำมันพืชเพื่อการบริโภค ภายหลังวันที่ 7 มี.ค.นี้ กระทรวงพลังงานจะประสานไปยังผู้ผลิตน้ำมันไบโอดีเซลบี 100 จำนวน 7 ราย ให้สามารถเข้าไปซื้อน้ำมันปาล์มเพื่อผลิตเป็นไบโอดีเซลบี 100 ได้ตามปกติ
โดยขณะนี้ราคาน้ำมันปาล์มดิบ(CPO) ปรับตัวลดลงเล็กน้อยอยู่ที่ 51 บาท/ลิตร และมีแนวโน้มที่จะทรงตัวอยู่ในระดับนี้อีก 1-2 สัปดาห์
โดยที่ผ่านมา กระทรวงพลังงานได้ขอความร่วมมือไปยังผู้ผลิตดีเซลบี 2 เพื่อให้หยุดซื้อน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 23 ก.พ. เพื่อให้มีน้ำมันปาล์มเหลืออยู่ในท้องตลาดประมาณ 7.7 พันลิตร เพราะต้องการให้นำน้ำมันจำนวนนี้ไปผลิตเป็นน้ำมันสำหรับการบริโภค