สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเปิดเผยว่า มูลค่าการนำเข้าถ่านหินจีนเพิ่มขึ้น 60.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะ 1.69 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2553 ซึ่งสูงกว่าปริมาณการนำเข้าถ่านหินที่เพิ่มขึ้น 30.9% แตะ 164.78 ล้านตันในปีดังกล่าว
นักวิเคราะห์ระบุว่า มูลค่าการนำเข้าที่พุ่งสูงขึ้นนี้มีสาเหตุมาจากความต้องการถ่านหินภายในประเทศที่แข็งแกร่ง ขณะที่ราคาถ่านหินในต่างประเทศพุ่งสูง
-- กำลังการผลิตถ่านหินที่ท่าเรือชิงหวงเตา ซึ่งเป็นศูนย์กลางซื้อขายและลำเลียงถ่านหินที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือของจีนนั้น เพิ่มขึ้นอีก 12% หรือ 1.81 ล้านตันต่อปี แตะ 16.95 ล้านตันในเดือนก.พ.
ข้อมูลของบริษัท ชิงหวงเตา พอร์ท จำกัด ระบุว่า การขนส่งถ่านหินทางรถไฟที่ท่าเรือโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 619,000 ตันในเดือนก.พ. ซึ่งลดลงเล็กน้อย 1.75% ต่อปี ขณะที่ปริมาณถ่านหินที่มีการส่งออกจากท่าเรืออยู่ที่ 564,000 ตัน ส่วนการลำเลียงถ่านหินจากท่าเรือชิงหวงเตาไปยังชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงใต้ มีปริมาณรวมอยู่ที่ 16.95 ล้านตัน
ขณะเดียวกัน สต็อกถ่านหินที่ท่าเรือยังคงอยู่ในระดับที่ค่อนข้างจะสูง เนื่องจากความต้องการถ่านหินที่อ่อนตัว และการยุติการผลิตอันเนื่องมาจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น สต็อกถ่านหินที่ท่าเรืออยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือนที่ 8.479 ล้านตัน ภายในวันที่ 28 ก.พ.
-- ดิ อลูมินัม คอร์ป ออฟ ไชน่า หรือชาลโค กำลังวางแผนที่จะสร้างฐานการผลิตถ่านหินขนาด 5 ล้านตันต่อปีในจีนปีนี้ ขณะเดียวกันบริษัทได้ประกาศว่า บริษัทสามารถหวนกลับมาทำกำไรได้ 778 ล้านหยวนในปี 2553 เมื่อเปรียบเทียบกับยอดขาดทุนที่ 4.619 พันล้านหยวนในปีก่อนหน้า
ทั้งนี้ เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ทางบริษัทได้เจรจากับมณฑลต่างๆที่มีถ่านหินจำนวนมาก ได้แก่ มณฑลซินเจียง มองโกเลียใน กานซู กุยโจว เพื่อจัดหาทรัพยากรถ่านหินจำนวน 5 พันล้านตัน
ขณะเดียวกัน บริษัทชาลโคคาดการณ์ว่า ยอดการใช้จ่ายเงินทุนสำหรับการก่อสร้างฐานการผลิตถ่านหินในปี 2554 จะอยู่ที่กว่า 2 หมื่นล้านหยวน ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่ายอดการลงทุนในปีที่แล้วที่ 9 พันล้านหยวน
-- กรมถ่านหินของมณฑลซานซี ซึ่งเป็นมณฑลที่ผลิตถ่านหินรายใหญ่เป็นอันดับ 2 ของจีน คาดการณ์ว่า ราคาและอุปทานถ่านหินในตลาดจีนมีแนวโน้มว่าจะอ่อนตัวลงมาอยู่ช่วงหนึ่ง เนื่องจากตลาดจะเข้าสู่ช่วงซบเซาและถ่านหินจะมีปริมาณล้นตลาด โดยมณฑลซานซีได้ผลิตถ่านหิน 58.17 ล้านตันในเดือนม.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้น 5.77 ล้านตัน หรือ 11.02% เมื่อเทียบเป็นรายปี
-- เอินส์ท แอนด์ ยัง เปิดเผยในรายงานว่า จีนครองตำแหน่งผู้นำในตลาดพลังงานหมุนเวียนของโลก โดยอุตสาหกรรมพลังงานลมของจีนนั้นมีกำลังการผลิตติดตั้งมากกว่า 42 ล้านกิโลวัตต์ในช่วงสิ้นปี 2553 ด้วยกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น 64% เมื่อปีที่แล้ว ส่วนการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง สำนักข่าวซินหัวรายงาน