ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรพุ่งหลังประธานธนาคารกลางยุโรปส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย

ข่าวต่างประเทศ Friday March 4, 2011 07:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือนเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (3 มี.ค.) หลังจากนายฌอง-คล้อด ทริเชต์ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวว่า อีซีบีอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะใกล้นี้ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้นขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ

ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 0.70% แตะที่ 1.3960 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ 1.3863 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ร่วงลง 0.32% แตะระดับ 1.6274 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6326 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.56% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 82.340 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ 81.880 ดอลลาร์สหรัฐ และดีดตัวขึ้น 0.81% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9311 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9236 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนตัวลง 0.09% แตะที่ 1.0154 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ 1.0163 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 0.30% แตะที่ 0.7406 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7428 ดอลลาร์สหรัฐ

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดในรอบ 4 เดือน หลังจากทริเชต์ออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมเมื่อวานนี้ว่า อีซีบีอาจจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ หลังจากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นดัชนีวัดภาวะเงินเฟ้อที่เกิดจากแรงกดดันของราคาผู้บริโภค พุ่งขึ้น 2.4% ในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี และนับเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันที่ตัวเลขเงินเฟ้อในยูโรโซนเคลื่อนไหวเหนือระดับเป้าหมายของอีซีบีที่ 2%

ส่วนในการประชุมอีซีบีครั้งล่าสุดเมื่อวานนี้ คณะกรรมการกำหนดนโยบายของอีซีบีมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.0% ซึ่งเป็นการคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุม 22 ครั้งติดต่อกัน และสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยนและสกุลเงินอื่นๆ หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 26 ก.พ.ลดลง 20,000 ราย แตะระดับ 368,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง หรือต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.ปี 2551 และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 398,000 ราย

ขณะที่สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการเดือนก.พ.พุ่งขึ้นแตะระดับ 59.7 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 5 ปี จากเดือนม.ค.ที่ระดับ 59.4 จุด

ทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในวันศุกร์ รวมถึงยอดสั่งซื้อของโรงงานเดือนม.ค.และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร (nonfarm payroll) เดือนก.พ. โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 185,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราว่างงานเดือนก.พ.จะอยู่ที่ 9.1% เพิ่มขึ้นจากเดือนม.ค.ที่ระดับ 9.0%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ