บริษัท PWC ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาและบัญชีเปิดเผยในรายงานฉบับล่าสุดว่า บทบาทของจีนในการควบรวมและซื้อกิจการเหมืองทั่วโลกนั้น ถูกกล่าวถึงเกินจริง และตรงข้ามกับการคาดการณ์ เพราะแท้จริงแล้ว บทบาทของจีนในเรื่องดังกล่าวยังไม่มากนัก
ทิม โกลด์สมิธ หัวหน้าฝ่ายธุรกิจเหมืองระดับโลกของ PWC กล่าวว่า บริษัทของจีนในภาคธุรกิจเหมืองมีความกระตือรือร้นที่จะเข้าซื้อ แต่การซื้อสินทรัพย์ส่วนใหญ่นั้นเป็นโครงการขนาดเล็กภายในประเทศและภูมิภาคใกล้เคียง
-- ไชน่า เดลี่ รายงานโดยอ้างผู้บริหารของ ไชน่า มินเมทัลส์ คอร์ปอเรชั่น ซึ่งเป็นเทรดเดอร์โลหะรายใหญ่สุดของจีนว่า บริษัทวางแผนที่จะเพิ่มทรัพยากรเหล็กอีก 10 เท่าในช่วงปี 2554 - 2558 ด้วยการซื้อธุรกิจเหมืองทั้งในประเทศและต่างประเทศมากขึ้น
จาง เย่อ กรรมการบริหารของบริษัท มินเมทัลส์ ไมนิ่ง โฮลดิ้งส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของไชน่า มินเมทัลส์ กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าที่จะเพิ่มสัดส่วนทรัพยากรต้นน้ำ และพัฒนาบริษัทขึ้นเป็นกลุ่มธุรกิจเหมืองระดับโลก โดยทรัพยากรเหมืองในต่างประเทศจะคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 50% ของทรัพยากรใหม่ของบริษัท
ทั้งนี้ บริษัท มินเมทัลส์ ไมนิ่ง โฮลดิ้งส์ ซึ่งเป็นผู้พัฒนาทรัพยากรเหล็กให้กับไชน่า มินเมทัลส์นั้น ต้องการลงทุนในธุรกิจสินแร่เหล็ก โครเมียม แมงกานีส และถ่านหินในออสเตรเลีย แคนาดา ตะวันออกกลาง และแอฟริกาใต้
-- บริษัท ฟอเรจนจ์ เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (NFC) เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงนามในสัญญาด้านวิศวกรรม การจัดซื้อ และการก่อสร้างกับ เซาท์ อลูมินัม คอร์ปอเรชั่น ของอิหร่าน เมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา
ข้อตกลงดังกล่าวคิดเป็นมูลค่า 7.179 พันล้านหยวน โดยบริษัทของจีนจะรับผิดชอบในเรื่องการสร้างฐานอลูมินัมแยกประจุไฟฟ้าที่มีกำลังการผลิต 276,000 ตันต่อปี ซึ่งรวมถึงโรงงานผลิตคาร์บอนซึ่งเป็นขั้วบวก ขนาด 150,000 ตัน ให้กับบริษัท เซาท์ อลูมินัม
หุ้นบริษัท NFC ดีดขึ้น 0.67% ปิดที่ 31.16 หยวนเมื่อวันพุธที่ผ่านมา หลังจากที่ได้มีการระงับการซื้อขายในตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ หนึ่งวันก่อนหน้านั้น
ทั้งนี้ บริษัท NFC เป็นบริษัทจดทะเบียนในเครือของบริษัทเหมืองรายใหญ่ที่รัฐบาลเป็นเจ้าของ คือ บริษัท ไชน่า นอนเฟอรัส เมทัลส์ จำกัด สำนักข่าวซินหัวรายงาน