สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นักวิเคราะห์หลายคนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางจีนอาจจะปรับขึ้นเพดานกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ (RRR) อีกในระยะใกล้นี้ เพื่อดูดซับสภาพคล่องออกจากระบบ
นายเหลียน ปิง หัวหน้านักวิเคราะห์จากแบงก์ ออฟ คอมมูนิเคชันส์ กล่าวว่า นักลงทุนได้เข้าซื้อสกุลเงินหยวนในตลาดปริวรรตเงินตราต่างประเทศจำนวนมาก โดย ณ สิ้นเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ยอดการเข้าซื้อสกุลเงินหยวนพุ่งขึ้นเป็น 5.0165 แสนล้านหยวน หรือ 25% ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 4-4.5 แสนล้านหยวน และสะท้อนให้เห็นว่าตลาดโลกยังคงคาดว่าเศรษฐกิจจะจีนขยายตัวแข็งแกร่ง และคาดว่าเงินหยวนจะแข็งค่าขึ้นอีก
นายเหลียนยังกล่าวด้วยว่า ยอดขาดดุลการค้าที่ลดลงไม่ได้หมายความว่าปริมาณเงินทุนไหลเขาจะลดลงในอนาคต โดยในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ยอดขาดดุลการค้าของจีนลดลง 53.5% แตะระดับ 6.45 พันล้านดอลลาร์
ด้านนายหลี่ ฮุ่ยหยง นักวิเคราะห์จากเฉินหยิน แอนด์ หวังกัว ซิเคียวริตีส์ กล่าวว่า กลุ่มวิสาหกิจและนักลงทุนรายย่อยได้โยกย้ายทรัพย์สินในต่างประเทศเข้าสู่ตลาดจีน เพราะเชื่อมั่นในความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจจีนและเงินหยวนที่แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะทำให้ปริมาณการซื้อสกุลเงินหยวนในตลาดปริวรรตเงินตราต่างประเทศปรับตัวขึ้นด้วย
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์เป็นวงกว้างว่า ธนาคารกลางจีนจะปรับเพิ่มเพดานกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ในเดือนมี.ค. เพื่อดูดซับสภาพคล่องออกจากระบบ และคาดจะปรับเพิ่มเพดานกันสำรองอีกในเดือนเม.ย.
เมื่อวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา ธนาคารกลางจีนประกาศเพิ่มเพดานกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์อีก 0.50% ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 2 ในปีนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะควบคุมภาวะเงินเฟ้อและราคาอสังหาริมทรัพย์ที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ การประกาศเพิ่มเพดานสำรองเงินฝากยังมีขึ้นเพียง 10 วันหลังจากที่ธนาคารกลางจีนได้ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยทั้งเงินฝากและเงินกู้อีก 0.25%