ค่าเงินยูโรดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (4 มี.ค.) หลังจากประธานธนาคารกลางยุโรปได้ออกมาส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า ขณะที่เงินฟรังค์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากสถานการณ์รุนแรงในลิเบียทำให้นักลงทุนเข้าซื้อเงินฟรังค์เพื่อปกป้องความเสี่ยง
ค่าเงินยูโรปรับตัวขึ้น 0.13% แตะที่ 1.3981 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.3963 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ค่าเงินปอนด์อ่อนตัวลง 0.13% แตะที่ 1.6251 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6272 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.13% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 82.280 เยน จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 82.390 เยน และร่วงลง 0.62% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9258 ฟรังค์ จากระดับ 0.9316 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.37% แตะที่ 1.0106 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.0144 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ดิ่งลง 0.55% แตะที่ 0.7367 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7408 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินยูโรทะยานขึ้นเหนือระดับ 1.40 ดอลลาร์สหรัฐเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีที่แล้ว หลังจากนายฌอง-คล้อด ทริเชต์ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวว่า อีซีบีอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า เนื่องจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในยูโรโซนสูงขึ้น
"มีความเป็นไปได้ที่อีซีบีอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้า เนื่องจากเงินเฟ้อในยูโรโซนมีความเสี่ยงที่สูงมาก และการรักษาเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้นั้น ถือเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง" ทริเชต์กล่าวภายหลังการประชุมนโยบายการเงินเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ซึ่งคณะกรรมการอีซีบีมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 1%
การแสดงความคิดเห็นของประธานธนาคารกลางยุโรปมีขึ้นหลังจากยูโรสแตทรายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในยูโรโซนพุ่งขึ้น 2.4% ในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี และนับเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันที่ตัวเลขเงินเฟ้อในยูโรโซนเคลื่อนไหวเหนือระดับเป้าหมายของอีซีบีที่ 2%
เงินฟรังค์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อเพื่อปกป้องความเสี่ยงจากสถานการณ์รุนแรงในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ
ส่วนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ แม้กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.พ.เพิ่มขึ้นเกินคาด 192,000 ตำแหน่ง และอัตราว่างงานเดือนก.พ.ลดลงแตะระดับ 8.9% ก็ตาม