เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (เอดีบี) กล่าวว่า เศรษฐกิจเอเชียอาจขยายตัวช้ากว่าที่ได้มีการคาดการณ์ไว้ เนื่องจากแรงกดดันจากเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น อันเป็นผลมาจากราคาน้ำมันดิบที่พุ่งทะยานเพราะสถานการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลาง
นายราจัต นาค กรรมการผู้จัดการทั่วไปของเอดีบี ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเกียวโดว่า "เราอาจปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจ" จากปัจจุบันที่คาดว่าเศรษฐกิจเอเชียจะขยายตัว 7.3% ในปีนี้
"หากสถานการณ์ในตะวันออกกลางยังดำเนินต่อไป เศรษฐกิจของประเทศเอเชียก็อาจเริ่มได้รับผลกระทบ เนื่องจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นจะทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้นตามไปด้วย" เขากล่าว
ปัจจุบันหลายฝ่ายกำลังวิตกว่าสถานการณ์ความไม่สงบทางการเมืองในตะวันออกกลางอาจผลักดันให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นทางธุรกิจของภาคเอกชนในเอเชีย และกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมทั่วภูมิภาคเอเชีย
ขณะเดียวกันราคาอาหารก็ปรับตัวสูงขึ้น นายนาคจึงแนะนำว่าหน่วยงานด้านการเงินในเอเชียควรจับตาดูว่าภาวะเงินเฟ้อจะส่งผลกระทบอย่างไรต่อเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ
อย่างไรก็ดี เขาเชื่อว่าตอนนี้เศรษฐกิจเอเชียจะยังไม่ได้รับผลกระทบมากนักจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากรัฐบาลและธนาคารกลางของแต่ละประเทศได้เริ่มใช้มาตรการที่จำเป็นในการรับมือกับเงินเฟ้อแล้ว อย่างอินเดียกับจีนก็เริ่มขึ้นดอกเบี้ยแล้ว
"เรายังไม่เห็นว่าราคาน้ำมันที่สูงขึ้นจะส่งผลกระทบโดยตรงอย่างรุนแรงต่อเอเชีย" เขากล่าว