ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (7 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากยูโรทะยานขึ้นติดต่อกันหลายวัน อันเนื่องมาจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางยุโรปจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ นอกจากนี้ ยูโรยังถูกกดดันจากข่าวมูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือพันธบัตรรัฐบาลกรีซ
ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลง 0.05% แตะที่ 1.3975 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.3982 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ค่าเงินปอนด์ร่วงลง 0.43% แตะที่ 1.6203 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6273 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง 0.02% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 82.240 เยน จากระดับของวันศุกร์ที่ 82.260 เยน แต่แข็งค่าขึ้น 0.11% เมื่อเทียบกับเงินฟรังค์สวิสที่ 0.9262 ฟรังค์ จากระดับ 0.9252 ฟรังค์
ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตเรลียร่วงลง 0.33% แตะที่ 1.0110 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.0143 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 0.22% แตะที่ 0.7361 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7377 ดอลลาร์สหรัฐ
นักลงทุนเทขายทำกำไรสกุลเงินยูโร หลังจากยูโรพุ่งขึ้นติดต่อกันหลายวันเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ อันเนื่องมาจากนายฌอง-คล้อด ทริเชต์ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ส่งสัญญาณว่า อีซีบีอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า เนื่องจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในยูโรโซนสูงขึ้น
นอกจากนี้ ค่าเงินยูโรยังถูกกดดันจากรายงานที่ว่ามูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือพันธบัตรรัฐบาลกรีซลงอีก 3 ขั้นสู่ระดับ B1 จากระดับ Ba1 เนื่องจากวิตกว่ารัฐบาลกรีซอาจจะต้องดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้มูลค่ามหาศาล
ธนาคากลางยุโรปได้ระงับโครงการซื้อพันธบัตรฉุกเฉินเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยมีเป้าหมายที่จะชะลอการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรในประเทศยูโรโซนที่กำลังประสบปัญหาหนี้สาธารณะ
คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยอิสระชั้นนำระดับโลก เปิดเผยว่า ดัชนีแนวโน้มการจ้างงานเดือนก.พ.ของสหรัฐ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.7% สู่ระดับ 101.7 จุด จากเดือนม.ค.ที่ระดับ 100.1 จุด ทำสถิติเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 และสะท้อนให้เห็นว่า ตลาดแรงงานของสหรัฐมีแนวโน้มฟื้นตัวรวดเร็วขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
ทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ รวมถึงสต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนม.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนม.ค., รายงานงบประมาณของรัฐบาลกลางเดือนก.พ., ยอดค้าปลีกเดือนก.พ. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนม.ค.