ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (7 มี.ค.) เนื่องจากความกังวลที่ว่าราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องอาจจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายในตลาดยังได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์ตึงเครียดในลิเบีย หลังจากมีรายงานว่า กองกำลังสนับสนุนพันเอกมูอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย ยังคงเดินหน้าโจมตีกลุ่มผู้ประท้วง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 79.85 จุด หรือ 0.66% แตะที่ 12,090.03 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 11.02 จุด หรือ 0.83% แตะที่ 1,310.13 จุด และดัชนี Nasdaq ร่วงลง 39.04 จุด หรือ 1.40% ปิดที่ 2,745.63 จุด
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กยังคงปิดบวกเมื่อคืนนี้ (7 มี.ค.) เนื่องจากสถานการณ์รุนแรงในลิเบียได้หนุนราคาน้ำมันดิบทะยานขึ้น ซึ่งกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อปกป้องความเสี่ยงจากสงครามกลางเมืองและภาวะเงินเฟ้อทั่วโลก
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 5.9 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่ 1,434.5 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,428.30-1,445.70 ดอลลาร์
-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในกว่า 2 ปีเมื่อคืนนี้ (7 มี.ค.) เนื่องจากกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์รุนแรงในลิเบีย หลังจากกองกำลังสนับสนุนพันเอกมูอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย ได้ใช้อาวุธหนักโจมตีกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงใกล้กับท่าเรือลำเลียงน้ำมันหลักของลิเบีย ซึ่งทำให้เกิดความวิตกกังวลว่าสถานการณ์ตึงเครียดทางการอาจทำให้ผลผลิตน้ำมันของลิเบียลดลงอีก
สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 1.02 ดอลลาร์ หรือ 0.98% ปิดที่ 105.44 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 26 ก.ย.ปี 2551
-- ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (7 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากยูโรทะยานขึ้นติดต่อกันหลายวัน อันเนื่องมาจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางยุโรปจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ นอกจากนี้ ยูโรยังถูกกดดันจากข่าวมูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือพันธบัตรรัฐบาลกรีซ
ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลง 0.05% แตะที่ 1.3975 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.3982 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ค่าเงินปอนด์ร่วงลง 0.43% แตะที่ 1.6203 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6273 ดอลลาร์สหรัฐ
-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (7 มี.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกอาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก ซึ่งความกังวลในเรื่องดังกล่าวได้บดบังรายงานคาดการณ์ที่ว่า ยอดเกินดุลการค้าของจีนจะปรับตัวลดลงในปีนี้
ดัชนี FTSE 100 ที่ตลาดหุ้นอังกฤษปิดลบ 16.61 จุดหรือ 0.3% แตะที่ 5,973.78 จุด
-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (7 มี.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลที่ราคาน้ำมันดิบทะยานขึ้นเหนือระดับ 105 ดอลลาร์/บาร์เรล อันเนื่องมาจากสถานการณ์รุนแรงในลิเบีย รวมทั้งความวิตกกังวลที่ว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นยุโรปได้แรงหนุนจากข่าวการคาดการณ์ที่ว่ายอดขาดดุลการค้าของจีนจะปรับตัวลดลงในปีนี้
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีลดลง 16.97 จุด หรือ 0.24% ปิดที่ 7,161.93 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 7,127.31-7,270.81 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสร่วงลง 29.80 จุด หรือ 0.74% ปิดที่ 3,990.41 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 3,990.41-4,049.98 จุด
ดัชนี FTSEurofirst 300 ของหุ้นกลุ่มบลูชิพทั่วยุโรปปิดลบ 4.67 จุด หรือ 0.41% สู่ 1,143.86 หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,143.64-1,157.38 จุด