ประธานาธิบดีซูสิโล บัมบัง ยุดโดโยโน แห่งอินโดนีเซีย ได้เรียกร้องให้ทุกฝ่ายระมัดระวังเกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากราคาน้ำมัน หลังจากที่ราคาน้ำมันได้ดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลภายหลังเหตุการณ์ความรุนแรงในลิเบีย
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ฮัตตา ราชสา รัฐมนตรีกระทรวงประสานงานเศรษฐกิจ กล่าวว่า ประธานาธิบดีได้ขอให้ทุกฝ่ายระวังเรื่องผลกระทบจากราคาน้ำมันแพงที่มีต่อสินค้าประเภทอื่นๆ และยังได้ย้ำเรื่องการควบคุมเงินเฟ้อและดูแลราคาสินค้าให้อยู่ในระดับที่มีเสถียรภาพ
ทั้งนี้ อินโดนีเซียเป็นประเทศผู้นำเข้าน้ำมันสุทธิ เพราะการผลิตน้ำมันในประเทศหดตัวลง ซึ่งเป็นผลมาจากบ่อน้ำมันที่ล้าสมัยและขาดการลงทุนในโครงการน้ำมันใหม่ๆ
เมื่อปีที่แล้ว ผลผลิตน้ำมันของอินโดนีเซียอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าเป้าหมายที่ 950,000 บาร์เรลต่อวัน เนื่องจากท่อน้ำมันมีรอยรั่ว นอกจากนี้ สภาพอากาศที่รุนแรงยังมีส่วนทำให้การผลิตน้ำมันของประเทศลดลงไปกว่า 38,000 บาร์เรลต่อวัน นับตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมา
นอกจากนี้ แผนการสั่งห้ามใช้เรือต่างชาติในการสำรวจและผลิตน้ำมัน ซึ่งจะมีผลบังคับใช้วันที่ 7 พ.ค.นั้น นับเป็นปัจจัยที่คุกคามต่อความพยายามที่จะผลิตน้ำมันให้ได้ 970,000 บาร์เรลต่อวันในปีนี้เป็นอย่างยิ่ง
อย่างไรก็ดี การส่งออกน้ำมันของประเทศอาจจะช่วยชดเชยผลกระทบจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นได้ ขณะที่การตัดสินใจชะลอการลดเงินอุดหนุนเชื้อเพลิงสำหรับรถส่วนบุคคล จากแผนการเดิมที่วางไว้ว่าจะเริ่มดำเนินการในเดือนเม.ย.นี้นั้น อาจจะช่วยบรรเทาผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นได้เช่นกัน