ค่าเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (8 มี.ค.) เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สาธารณะของหลายประเทศในกลุ่มยูโรโซน นอกจากนี้ ค่าเงินยูโรยังได้รับผลกระทบจากการที่นักลงทุนเริ่มกังวลว่าเศรษฐกิจของประเทศยุโรปที่มีหนี้สูงนั้น อาจจะไม่สามารถต้านทานต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรปในวันข้างหน้า
ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.51% แตะที่ 1.3901 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.3972 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ร่วงลง 0.30% แตะที่ 1.6151 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6200 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.56% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 82.670 เยน จากระดับของวันจันทร์ที่ 82.210 เยน และพุ่งขึ้น 1.03% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.9355 ฟรังค์ จากระดับ 0.9260 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.14% แตะที่ 1.0097 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.0111 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.38% แตะที่ 0.7392 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ที่ 0.7364 ดอลลาร์สหรัฐ
นักลงทุนกังวลว่า เศรษฐกิจของประเทศยุโรปที่มีหนี้สูงอาจจะไม่สามารถต้านทานต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ในวันข้างหน้าเนื่องมาจากนายฌอง-คล้อด ทริเชต์ ประธานอีซีบีส่งสัญญาณว่า อีซีบีอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า เนื่องจากดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ซึ่งเป็นดัชนีวัดเงินเฟ้อหลักในยูโรโซนพุ่งขึ้น 2.4% ในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี และนับเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันที่ตัวเลขเงินเฟ้อในยูโรโซนเคลื่อนไหวเหนือระดับเป้าหมายของอีซีบีที่ 2%
นอกจากนี้ ค่าเงินยูโรยังถูกกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สาธารณะในยูโรโซน และหลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือพันธบัตรรัฐบาลกรีซลงอีก 3 ขั้นสู่ระดับ B1 จากระดับ Ba1 เนื่องจากวิตกว่ารัฐบาลกรีซอาจจะต้องดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้มูลค่ามหาศาล
สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจยูโรโซนในไตรมาส 4 ของปีที่ผ่านมาขยายตัวที่ระดับ 0.3% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 โดยอุตสาหกรรมการส่งออกยังคงเป็นปัจจัยหนุนการขยายตัวของยูโรโซน
ทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ รวมถึงสต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนม.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนม.ค., รายงานงบประมาณของรัฐบาลกลางเดือนก.พ., ยอดค้าปลีกเดือนก.พ. และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนม.ค.