แบงก์ชาติญี่ปุ่นเตือนจับตาแนวโน้มเงินเฟ้อมากไปอาจกระทบเสถียรภาพระบบการเงิน

นายมาซาอากิ ชิรากาว่า ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่นหรือบีโอเจ กล่าวว่า ธนาคารกลางของประเทศต่างๆไม่ควรจะให้ความสนใจกับเรื่องแนวโน้มของเงินเฟ้อในระยะใกล้นี้มากเกินไป เพราะอาจจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพในระบบการเงิน

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ผู้ว่าบีโอเจกล่าวว่า เมื่อย้อนดูถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดวิกฤตการเงินเมื่อปี 2551 จะพบว่ามีภาวะที่ไร้สมดุลด้านการเงินในหลายรูปแบบ เช่น ราคาสินทรัพย์ที่สูงขึ้น พร้อมกับย้ำถึงความจำเป็นในการส่งเสริมนโยบายการเงินอย่างสมดุล ด้วยการพิจารณาปัจจัยที่หลากหลาย

นายชิรากาว่ากล่าวด้วยว่า นโยบายผ่อนคลายทางการเงินของบีโอเจ ซึ่งครอบคลุมถึงการซื้อสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง เช่น หุ้นกู้ที่ออกโดยภาคเอกชนนั้นค่อนข้างจะมีประสิทธิภาพ แต่ก็เตือนถึงแนวโน้มที่ถดถอยลงอันเนื่องมาจากการใช้มาตรการเหล่านี้

ผู้ว่าบีโอเจกล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางของประเทศต่างๆจะต้องขาดทุนกับการใช้มาตรการเหล่านี้ และยิ่งไปกว่านั้นคือการถูกมองว่า ธนาคารกลางไม่ใช่สถาบันที่มีความเป็นกลางที่ต่อไป ซึ่งหากเกิดสถานการณ์ดังกล่าว ก็อาจบั่นทอนความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อธนาคารกลางซึ่งเป็นรากฐานของการใช้นโยบายการเงินด้วย

ภายใต้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินที่ได้มีการนำมาใช้เมื่อเดือนต.ค.ปีที่แล้วนั้น แบงก์ชาติญี่ปุ่นได้คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0-0.1% และได้ตัดสินใจซื้อสินทรัพย์ประมาณ 5 ล้านล้านเยน ซึ่งมีทั้งพันธบัตรรัฐบาลและหุ้นกู้ของภาคเอกชน กองทุนแลกเปลี่ยน และทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์