นางอัญชลี วานิช เทพบุตร เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในการประชุมทางไกล หรือ VDO Conference เพื่อให้นายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ติดตามนโยบายและการปฏิบัติงานตามมติคณะรัฐมนตรี(ครม.)ของส่วนราชการ รับฟังปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้น รวมทั้งข้อเสนอแนะต่าง ๆ ในวันศุกร์ที่ 11 มี.ค.นี้จะเป็นการติดตามการทำงานประเด็นการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก ลพบุรี ยโสธร และร้อยเอ็ด
สืบเนื่องจากการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2554 ที่ประชุม ครม.ได้มีมติเห็นชอบการปรับราคาและปริมาณรับประกันของโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2553/54 รอบที่ 2 ตามมติคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2554 เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2554 ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ โดยมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำกับดูแลและติดตามตรวจสอบการดำเนินการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวให้รอบคอบถูกต้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่อยู่นอกเขตชลประทาน ดังนี้
1. การกำหนดราคาประกันรายได้เกษตรกร เห็นชอบการปรับราคารับประกันรายได้ เพื่อให้สอดรับกับต้นทุนการผลิตข้าว ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2554 ที่เพิ่มสูงขึ้นดังนี้ ข้าวเปลือกพันธุ์ปทุมธานี 1 จากเดิมตันละ 11,000 บาท เป็นตันละ 11,500 บาท, ข้าวเปลือกเจ้า จากเดิมตันละ 10,000 บาท เป็นตันละ 11,000 บาท และ ข้าวเปลือกเหนียวจากเดิมตันละ 9,500 บาท เป็น 10,000 บาทต่อตัน
2. การกำหนดปริมาณรับประกันข้าว เห็นชอบการปรับปริมาณรับประกันข้าว ดังนี้ ข้าวเปลือกพันธุ์ปทุมธานี 1 จากเดิมครัวเรือนละ 25 ตัน เป็นครัวเรือนละ 30 ตัน, ข้าวเปลือกเจ้า จากเดิมครัวเรือนละ 25 ตัน เป็นครัวเรือนละ 30 ตัน และ ข้าวเปลือกเหนียว จากเดิมครัวเรือนละ 25 ตัน เป็นครัวเรือนละ 30 ตัน
ข้าวทั้ง 3 ชนิดที่ปรับราคารับประกันรายได้ คาดว่าต้องใช้เงินงบประมาณเพิ่มอีกประมาณ 11,000 ล้านบาท จากเดิมที่ตั้งงบประมาณไว้ 19,000 ล้านบาท รวมเป็นเงินงบประมาณทั้งสิ้นสำหรับการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวจะอยู่ที่ 30,000 ล้านบาท ทั้งนี้เพื่อเป็นการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว