ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือน ก.พ.54 ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยโดยรวมอยู่ที่ 72.2 จาก 72.6 ในเดือน ม.ค.54
ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสในการหางานทำอยู่ที่ 72.6 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ 97.9
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน เนื่องจากผู้บริโภคมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ราคาน้ำมันที่มีราคาแพงขึ้น ค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้น และสถานการณ์ทางการเมืองที่ยังมีความไม่แน่นอน ทำให้ผู้บริโภคเริ่มกลับมากังวลว่าเศรษฐกิจในอนาคตอาจจะปรับตัวแย่ลงกว่าที่คาดไว้ และจะทำให้รายได้ในอนาคตมีแนวโน้มปรับตัวลดลง
"โดยรวมแล้วเศรษฐกิจในไตรมาสแรกปีนี้ยังเติบโตได้ดี แม้ผลทางจิตวิทยาในเชิงลบจะกลับมาสูงจากราคาน้ำมันแพง สินค้าแพง ทำให้ประชาชนมองว่ารายได้ในอนาคตจะลดลง ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นต่อสถานการณ์ในอนาคตปรับลดลงและฉุดให้ดัชนีความเชื่อมั่นโดยรวมปรับลดลง" นายธนวรรธน์ กล่าว
ทั้งนี้ คาดว่า จีดีพีในไตรมาสแรกของปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 2-2.5%
ศูนย์พยากรณ์ฯ คาดว่า การบริโภคของภาคประชาชนยังคงระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอยขึ้นมาก เพราะดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคทุกรายการมีค่าต่ำกว่าระดับปกติที่ 100 และผู้บริโภคเริ่มมีความกังวลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในอนาคต และอำนาจซื้อของประชาชนลดลงจากปัญหาน้ำมันแพงขึ้น และค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้น
แต่หากไม่มีปัจจัยลบเข้ามาบั่นทอนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคมากขึ้น โดยเฉพาะปัญหาค่าครองชีพและปัญหาการเมืองในประเทศ ตลอดจนราคาน้ำมันในตลาดโลกเริ่มปรับตัวลดลงในกลางไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ทางศูนย์พยากรณ์ฯ คาดว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจะปรับตัวดีขึ้นอย่างมั่นคงในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ซึ่งจะทำให้การบริโภคภายในประเทศขยายตัวอย่างคึกคักได้ตั้งแต่ครึ่งปีหลังของปีนี้เป็นต้นไป