ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (10 มี.ค.) โดยดอลลาร์ทะยานขึ้นกว่า 0.8% เมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร หลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของสเปน นอกจากนี้ สถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองในซาอุดิอาระเบีย ยังทำให้นักลงทุนลดการถือครองสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง และหันมาซื้อสกุลเงินที่ปลอดภัย เช่นสกุลเงินดอลลาร์และฟรังค์สวิส
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.84% เมื่อเทียบกับยูโรที่ระดับ 1.3790 ยูโร จากระดับของวันพุธที่ 1.3907 ยูโร และดีดตัวขึ้น 0.94% เมื่อเทียบกับเงินปอนด์ที่ระดับ 1.6048 ปอนด์ จากระดับ 1.6200 ปอนด์
นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าขึ้น 0.19% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 82.890 เยน จากระดับของวันพุธที่ 82.730 เยน แต่อ่อนตัวลง 0.24% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9320 เยน จากระดับ 0.9298 เยน
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 1.09% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9993 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ 1.0103 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 0.31% แตะระดับ 0.7345 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7368 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินยูโรร่วงลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับดอลลาร์ หลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือสเปนลงสู่ระดับ Aa2 และให้แนวโน้มเป็นลบ เนื่องจากความวิตกกังวลว่าค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้างในภาคธนาคารของสเปนจะปรับตัวสูงขึ้นถึง 4-5 หมื่นล้านยูโร ซึ่งสูงกว่าที่รัฐบาลตั้งเป้าไว้ที่ 2 หมื่นล้านยูโร (2.8 หมื่นล้านดอลลาร์)
นักลงทุนลดการถือครองสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง และหันเข้าซื้อสกุลเงินดอลลาร์และฟรังค์สวิสที่มีความปลอดภัยมากกว่าในช่วงที่เกิดวิกฤตการณ์รุนแรงทั่วโลก โดยมีรายงานว่าชาวมุสลิมนิกายชีอะห์กว่า 200 คนในซาอุดิอาระเบียได้ออกมาชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลที่เมืองควาติฟ และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยิงกระสุนยางเข้าสลายการชุมนุม ซึ่งส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 3 คน
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลงหลังจากสำนักงานศุลกากรของจีนรายงานเมื่อวานนี้ว่า จีนมียอดขาดดุลการค้ามูลค่า 7.3 พันล้านดอลลาร์ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นการขาดดุลการค้าครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2552 ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีน และจะส่งผลกระทบต่อประเทศคู่ค้าของจีน รวมถึงออสเตรเลียด้วย
ส่วนค่าเงินปอนด์ร่วงลงหลังจากธนาคารกลางอังกฤษ มีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.5% ในการประชุมเมื่อวานนี้ แม้ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นดัชนีวัดเงินเฟ้อ พุ่งขึ้นแตะระดับ 4.0% ในเดือนม.ค.ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปีก็ตาม
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนก.พ. และตัวเลขสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนม.ค.ในคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย