รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(BOI) เปิดเผยว่า เดือน ก.พ.54 มียอดขอรับการส่งเสริมการลงทุนรวมทั้งสิ้น 269 ราย เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 53 ที่มี 181 ราย หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 48.62 % ส่งผลให้เกิดการจ้างงานทั้งสิ้น 25,607 คน ส่วนเงินลงทุนมีจำนวน 6.93 หมื่นล้านบาท ลดลง 7% จากช่วงเดียวกันของปี 53 ที่มีเงินลงทุน 7.49 หมื่นล้านบาท
สำหรับประเทศที่เข้ามาลงทุนมากที่สุด คือ ญี่ปุ่น 82 โครงการ รองลงมา คือ ยุโรป 29 โครงการ, สิงคโปร์ 12 โครงการ, ไต้หวัน 7 โครงการ, ฮ่องกง 7 โครงการ และสหรัฐอเมริกา 5 โครงการ โดยประเภทกิจการที่มีการลงทุนมากสุด 3 อันดับแรก คือ ธุรกิจผลิตภัณฑ์โลหะ เครื่องจักรและอุปกรณ์ขนส่ง รองลงมา คือ ธุรกิจบริการและสาธารณูปโภค และอันดับสาม ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องไฟฟ้า
แต่หากเป็นประเภทกิจการที่มีเงินลงทุนสูงสุด 3 อันดับแรก คือ ธุรกิจบริการและสาธารณูปโภค เงินลงทุน 1.95 หมื่นล้านบาท รองลงมา คือ ธุรกิจเคมี กระดาษ และพลาสติก เงินลงทุน 1.92 หมื่นล้านบาท และอันดับสาม ธุรกิจผลิตภัณฑ์โลหะ เครื่องจักรและอุปกรณ์ขนส่ง เงินลงทุน 1.49 หมื่นล้านบาท
ส่วนยอดการอนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุนในเดือน ก.พ.54 รวมทั้งสิ้น 266 ราย เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 53 ที่มี 232 ราย โดยมีเงินลงทุน 7.93 หมื่นล้านบาท