นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0-0.25% ในการประชุมคืนนี้ตามเวลาประเทศไทย และคาดว่า นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟด และคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดจะหารือกันเกี่ยวกับความเสี่ยงต่างๆที่เกิดขึ้นในระบบเศรษฐกิจสหรัฐ
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดว่า เฟดจะยังคงเดินหน้าโครงการซื้อพันธบัตรมูลค่า 6 แสนล้านดอลลาร์ภายใต้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสอง (QE2) โดยคณะกรรมการเฟดจะยังคงขนาดและระยะเวลาในการใช้โครงการไปจนถึงช่วงกลางปีนี้ ซึ่งโครงการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภค
คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดมีมติให้ใช้มาตรการ QE2 ด้วยการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลระยะยาววงเงิน 6 แสนล้านดอลลาร์ในการประชุมเมื่อวันที่ 3 พ.ย.ปี 2553 โดยทยอยซื้อในสัดส่วน 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนไปจนถึงกลางปี 2554 ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัว และเพื่อทำให้ต้นทุนการกู้ยืมลดต่ำลง
เบอร์นันเก้เชื่อมั่นว่า มาตรการ QE2 จะช่วยกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐและลดภาวะตึงตัวในระบบการเงินได้ พร้อมกับกล่าวว่า หากเศรษฐกิจสหรัฐเผชิญกับภาวะสภาพคล่องส่วนเกินในวันข้างหน้า เฟดก็มีเครื่องมือที่จำเป็นที่พร้อมจะดูดซับสภาพคล่องออกจากระบบในเวลาที่เหมาะสม
การประชุมเฟดครั้งล่าสุดจะมีขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่เศรษฐกิจกำลังเผชิญกับความเสี่ยงมากมาย รวมถึงผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและการรั่วไหลของสารกัมมันตรังสีในญี่ปุ่น, ราคาอาหารในตลาดโลกที่พุ่งขึ้น และอัตราว่างงานสหรัฐที่เคลื่อนไหวใกล้ระดับ 9%