นักวิเคราะห์เชื่อศก.ญี่ปุ่นดีดตัวแข็งแกร่งในครึ่งปีหลัง แม้เผชิญแผ่นดินไหว

นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า เหตุแผ่นดินไหวที่สร้างความเสียหายอย่างมหาศาลต่อญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา ประกอบกับความวิตกกังวลเรื่องสารกัมมันตรังสีในญี่ปุ่นที่รุนแรงมากขึ้นอาจทำให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นปรับตัวลดลงในระยะสั้นๆ ก่อนที่จะดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในครึ่งปีหลัง

นายคาโอรุ โยซาโน รัฐมนตรีเศรษฐกิจและนโยบายการคลังของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า "ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นแข็งแกร่ง" ผลกระทบจากแผ่นดินไหวขนาด 9.0 ริกเตอร์และสึนามิที่เกิดขึ้นตามมาจะไม่ทำให้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นหยุดชะงัก

นายทาเครุ อิไนซูมิ หัวหน้าแผนกหลักทรัพย์ของบริษัทหลักทรัพย์มิซูโฮ อินเวสเตอร์ส ซีเคียวริตี้กล่าวว่า นักลงทุนถอนสินทรัพย์จากตลาดญี่ปุ่นเป็นการชั่วคราว ในขณะที่ตัวเลขประมาณการผลกระทบของแผ่นดินไหวยังไม่ชัดเจน

นายอิไนซูมิกล่าว หุ้นที่มีทุนจดทะเบียนสูงอย่างโตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป มีมูลค่าลดต่ำลงอย่างมาก แต่หุ้นเหล่านี้จะกลับมาเป็นปัจจัยหลักต่อการฟื้นตัว เมื่อตลาดกลับมาอยู่ในสภาวะปกติ

นักวิเคราะห์จากธนาคารดีบีเอสของสิงคโปร์คาดการณ์ว่า ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นกับญี่ปุ่นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาจะสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจประมาณ 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ เท่ากับ 2% ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี)

ขณะที่นายมาซาอากิ คันโน จากเจ.พี.มอร์แกน ซีเคียวริตี้คาดการณ์ว่า ความเสียหายครั้งนี้อาจรุนแรงกว่าเหตุแผ่นดินไหวเมื่อปี 2538 ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายอยู่ที่ 9.9 ล้านล้านเยน (1.20 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) อย่างไรก็ตาม แม้การขยายตัวของญี่ปุ่นได้รับผลกระทบในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ แต่คาดว่าเศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังเนื่องจากรัฐบาลใช้มาตรการฟื้นฟูประเทศ

ด้านนายทาคูจิ โอคุโบ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ชาวญี่ปุ่นจากธนาคารโซซิเอเต เจเนอราล ของฝรั่งเศสเชื่อว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นจะดีดตัวขึ้นเป็นรูปตัววี โดยคาดว่าเศรษฐกิจจะร่วงลงอย่างหนักในเดือนมี.ค. แต่จะฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในไม่กี่เดือนหลังจากนั้น