นายอาชว์ เตาลานนท์ รองประธานกรรมการ เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) กล่าวว่า จากเหตุภัยพิบัติในญี่ปุ่นเชื่อว่าจะทำให้ญี่ปุ่นมีการนำเข้าอาหารจำนวนมากหลังจากที่การผลิตอาหารภายในประเทศได้รับความเสียหาย ซึ่งส่งผลดีต่อผู้ผลิตอาหารของไทยที่มีโอกาสส่งออกได้เพิ่มขึ้น แม้ว่าช่วงแรกการขนส่งสินค้าจะชะงักชั่วคราว โดยไทยและญี่ปุ่นมีมูลค่าการค้าประมาณ 6-7 แสนล้านบาท/ปี
ขณะที่ธุรกิจท่องเที่ยวได้รับผลกระทบหนักทั้งขาเข้าและขาออกจากญี่ปุ่น และราคายางตกต่ำลงจากโรงงานผลิตรถยนต์ในญี่ปุ่นปิดตัวลงชั่วคราว
นอกจากนี้มองว่า ญี่ปุ่นจะมีการย้ายฐานการผลิตมายังประเทศกลุ่มอาเซียน โดยเฉพาะไทยที่มีความพร้อมที่สุด รวมทั้งในปี 58 ข้อตกลง AEC จะเริ่มมีผลบังคับใช้ อีกทั้งยังมีข้อตกลง FTA ระหว่างญี่ปุ่นจะเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการญี่ปุ่นมากขึ้น และน่าจะกลับมาลงทุนมากขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ
ทั้งนี้ เหตุภัยพิบัติในญี่ปุ่นส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของญี่ปุ่น 0.1-1.2% มาที่ 1.3-1.4% จากเดิมคาดว่าเศรษฐกิจในปีนี้จะเติบโต 1.6%
"ญี่ปุ่นเป็นประเทศมีการเตรียมตัวดี มีเทคโนโลยี และคนญี่ปุ่นมีวินัยสูงมาก ผมคิดว่า ญี่ปุ่นจะกลับมาฟื้นตัวได้เร็ว"นายอาชว์ กล่าว