ก.พลังงานเผยโรงไฟฟ้าพลังลม 7 แห่งยื่นขออนุญาต พบอุปสรรคใช้พื้นที่ป่าสงวน-เขตลุ่มน้ำ

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday March 16, 2011 14:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายทวารัฐ สูตะบุตร รองอธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน(พพ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีโครงการโรงไฟฟ้าพลังลมที่ยื่นความจำนงที่จะลงทุนก่อสร้างโรงไฟฟ้าอีก 7 พื้นที่ อยู่ระหว่างการพิจารณาของกระทรวงพลังงาน

ทั้งนี้ ปัญหาอุปสรรคในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังลมขนาดใหญ่ที่เป็นแบบทุ่งกังหันลม หรือ Wind Farm ยังมีข้อจำกัดในบางพื้นที่มีความแรงของลมไม่เพียงพอที่จะทำการผลิตในเชิงพาณิชย์ได้ และบางพื้นที่ที่จะเป็นที่ตั้งทุ่งกังหันลมต้องใช้พื้นที่จำนวนมาก ทำให้บางพื้นที่เข้าไปอยู่ในเขตป่าสงวน และเขตพื้นที่ลุ่มน้ำอนุรักษ์ เช่น 1A, 1B เป็นต้น ทำให้ต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินการขออนุญาต และดูความเหมาะสมก่อนว่าจะดำเนินการได้หรือไม่

นายวารัฐ กล่าวว่า ในช่วงปี 55-56 จะมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังลมเกิดขึ้น 3 โรง กำลังการผลิตรวมประมาณ 240 เมกะวัตต์(MW) ประกอบด้วย โครงการพลังงานลมที่ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์, จ.ชัยภูมิ และ จ.นครศรีธรรมราช โดยทั้ง 3 โครงการเป็นโครงการที่มีการลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) แล้ว

ทั้งนี้ โครงการที่ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ มีความก้าวหน้าของโครงการมาก เพราะประชาชนในพื้นที่ให้การสนับสนุนให้มีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังลม ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำรายงานผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ)

ปัจจุบัน มีโครงการโรงไฟฟ้าพลังลมที่มีการผลิตไฟฟ้าแล้วขนาด 5 เมกะวัตต์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังลมขนาดเล็กที่เป็นโครงการสาธิตของหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจ โดยในปี 54 นี้ คาดว่าจะมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังลมที่เป็นโครงการสาธิตของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) จะเริ่มเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าได้ประมาณ 2-3 เมกะวัตต์

ตามแผนพัฒนาพลังงานทดแทน 15 ปี(52-65) ตั้งเป้าหมายที่จะรับซื้อไฟฟ้าจากพลังลมจำนวน 800 เมกะวัตต์ ในสิ้นปี 65 แต่ในเบื้องต้นมีผู้ยื่นเสนอโครงการมามีกำลังการผลิตรวมกันประมาณ 1,400-1,500 เมกะวัตต์ ดังนั้นจึงคาดว่าการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังลมจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้ตามแผนพัฒนาพลังงานทดแทน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ