บริษัทด้านอิเล็คทรอนิคในฟิลิปปินส์กำลังมีความวิตกกังวลต่อความเป็นไปได้ที่อุปทานจากประเทศญี่ปุ่นจะหยุดชะงักหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงและคลื่นสึนามิซัดถล่มในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
แถลงการณ์บริษัท เซมิคอนดักเตอร์ แอนด์ อิเล็คทรอนิคส์ อินดัสทรีส์ อิน เดอะ ฟิลิปปินส์ อิงค์ (SEIPI) ระบุว่า บริษัทต่างๆ ที่ต้องพึ่งพาอุปทานจากญี่ปุ่นมีแนวโน้มว่าจะไม่ได้รับสินค้าที่ต้องการ เนื่องจากการหยุดให้บริการของการรถไฟในเส้นทางระหว่างภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นและกรุงโตเกียว รวมทั้งการดำเนินงานที่สนามบินประสบปัญหาติดขัด
เออร์นี ซานติอาโก ประธานบริษัท SEIPI กล่าวว่า บริษัทขนส่งทางอากาศปฏิเสธให้บริการขนส่ง และได้ระงับการขนส่งจนกว่าจะได้รับแจ้งต่อไป เนื่องจากเกิดความเสียหายต่อคลังสินค้าและงานที่คั่งค้างจำนวนมากจากเหตุการณ์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
"สภาวการณ์ไม่ปกติที่ยืดเยื้อยาวนานในญี่ปุ่นจะมีผลกระทบต่ออุปทานวัตถุดิบของอุตสาหกรรมอิเล็คทรอนิคของฟิลิปปินส์อย่างแน่นอน เนื่องจากผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอิเล็คทรอนิคในฟิลิปปินส์ส่วนใหญ่เป็นบริษัทญี่ปุ่น" นายซานติอาโกกล่าว
นายซานติอาโกระบุว่า บริษัทญี่ปุ่นคิดเป็นสัดส่วน 18% ของสมาชิกของ SEIPI และมีสัดส่วนในการส่งออกราว 20% ของยอดส่งออกทั้งหมด 3.11 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2553 ของฟิลิปปินส์
ทั้งนี้ SEIPI ได้ตั้งกองทุนบรรเทาทุกข์ด้านมนุษยธรรมแก่ผู้ประสบเหตุแผ่นดินไหวในญี่ปุ่น พร้อมเรียกร้องให้สมาชิกบริจาคเงินและสิ่งของ เช่น ผ้าห่ม เสื้อผ้า แบตเตอรี่ และของใช้จำเป็นอื่นๆ แก่ผู้ประสบภัย สำนักข่าวเกียวโดรายงาน