สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (16 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อปกป้องความเสี่ยงจากผลกระทบที่อาจเกิดจากวิกฤตการณ์นิวเคลียร์ในญี่ปุ่น
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดบวก 3.30 ดอลลาร์ หรือ 0.2% แตะที่ 1,396.10 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,395.20-1,406.60 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 35.5 เซนต์ ปิดที่ 34.472 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนพ.ค.ดีดขึ้น 6.2 เซนต์ ปิดที่ 4.1870 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 5.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,700.50 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 15 เซนต์ ปิดที่ 705.05 ดอลลาร์/ออนซ์
ไมค์ ดาลี ผู้เชี่ยวชาญด้านทองคำจากบริษัท PFGBest ในเมืองชิคาโกกล่าวว่า นักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากราคาทองคำร่วงลงอย่างหนักเมื่อหลายวันก่อน นอกจากนี้ ยังเป็นการซื้อเพื่อปกป้องความเสี่ยงจากสถานการณ์นิวเคลียร์ในญี่ปุ่น โดยนักลงทุนกังวลว่าการรั่วไหลของสารกัมมันตรังสีและเหตุการณ์แผ่นดินไหวในญี่ปุ่น จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นรุนแรงกว่าที่มีการประเมินกันไว้ก่อนหน้านี้
สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ประกาศลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือบริษัทประกันภัยของญี่ปุ่น ลงสู่ระดับ "เป็นลบ" จากเดิม "มีเสถียรภาพ" โดยระบุว่าแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิอาจทำให้ค่าใช้จ่ายในการชดเชยผู้ทำประกันของบริษัทประกันภัยญี่ปุ่นสูงกว่าระดับเมื่อครั้งที่เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่เมืองโกเบในปี 2538 (Great Hanshin Earthquake)
ฟิล ไฟนน์ นักวิเคราะห์อีกคนหนึ่งของ PFGBest กล่าวว่า ตลาดทองคำนิวยอร์กยังคงได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) อาจจะนำทองคำสำรองออกขายเพื่อเป็นทุนในการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบสูงถึง 15 ล้านล้านเยน หรือ 1.83 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากวิกฤตหนี้ยุโรป หลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้ของโปรตุเกสลง 2 ขั้น มาอยู่ที่ระดับ A3