ผู้บริหารมาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น(ประเทศญี่ปุ่น) เผยอยู่ระหว่างประเมินผลกระทบจากสถานการณ์ภัยพิบัติจากเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิ ก่อนปรับแผนการผลิตในอนาคต เนื่องจากขณะนี้ยังมีปัญหาเรื่องการติดต่อสื่อสารกับบรรดาผู้ผลิตชิ้นส่วนและอะไหล่
"(ผลกระทบ)มีแน่นอน เรากำลังประเมินว่าจะกระทบกำลังการผลิตหรือไม่ ยังติดต่อซัพพลายเออร์ไม่ได้ว่าจะกลับมาผลิตชิ้นส่วนและอะไหล่ได้เมื่อไหร่ เพราะมีปัญหาเรื่องการสื่อสาร" นายยูจิ นากามิเน่ ผู้บริหารระดับสูง มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น(ประเทศญี่ปุ่น) กล่าว
นายยูจิ กล่าวว่า จะต้องรอดูความชัดเจนก่อนจึงจะสามารถตอบได้ว่าจะมีแนวทางการดำเนินงานในอนาคตอย่างไรต่อไป ซึ่งคาดว่าจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เพราะซัพพลายเออร์ส่วนใหญ่ตั้งอยู่คนละฝั่งกับจุดเกิดเหตุ
"แม้สถานการณ์จะค่อนข้างรุนแรงกว่าที่เคยเกิดที่โอซาก้า แต่มั่นใจว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้โดยเร็ว" นายยูจิ กล่าว
อย่างไรก็ตาม มาสด้ายังไม่มีแนวคิดที่จะย้ายฐานการผลิตเรื่องชิ้นส่วนและอะไหล่ในเร็ววันนี้ ซึ่งคงต้องดูผลกระทบที่เกิดขึ้นกับซัพพลายเออร์เดิม แต่หากจำเป็นก็อาจหาซัพพลายเออร์รายใหม่ในประเทศญี่ปุ่น หากไม่มีจริงๆ จึงมองหาฐานการผลิตใหม่ในต่างประเทศ และยังบอกไม่ได้ว่าจะเป็นการย้ายฐานการผลิตมาตั้งที่ประเทศไทยหรือไม่
ขณะที่ น.ส.สุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท มาสด้าเซลส์(ประเทศไทย) กล่าวว่า ในเบื้องต้นโรงงานประกอบรถยนต์ที่ จ.ระยอง ได้ปรับลดเวลาในการทำงานล่วงเวลาลง แล้วจัดตารางการทำงานตามปกติ เพื่อรองรับไม่ให้เกิดปัญหาจนต้องปลดพนักงาน แต่ยังไม่ถึงขั้นต้องปรับลดกำลังการผลิต เพราะมีการวางแผนสต๊อกชิ้นส่วนและอะไหล่ไว้เพียงพอแล้ว
สำหรับการเปิดตัวรถยนต์มาสด้า 3 ใหม่ จะเป็นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรที่อัพเกรดระบบส่งกำลังให้ดีขึ้นและประหยัดน้ำมันมากขึ้น ซึ่งจะมีให้ลูกค้าเลือก 2 แบบ คือ ซีดาน 4 ประตู และสปอร์ต 5 ประตู ตั้งราคาขายเท่ากันที่ 1,064,000 บาท โดยตั้งเป้ายอดขายไว้ 7 พันคัน
"เรามีส่วนแบ่งในตลาดรถยนต์ซีดานมากกว่า 30 เปอร์เซ็นต์มานานกว่า 2 ปีแล้ว...ที่เปิดตลาดเฉพาะรุ่น 2.0 ลิตรเพราะคิดว่าเป็นตลาดที่เรามีความแข็งแกร่งอยู่ แต่จากนี้ไปสัก 1 ปีก็จะวางตลาดรุ่น 1.6 ลิตร" น.ส.สุรีทิพย์ กล่าว
น.ส.สุรีทิพย์ กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตรถยนต์มาสด้า 3 ใหม่จำนวน 300-600 คัน/เดือน แต่ในระยะแรกจะผลิตเต็มกำลัง 600 คัน/เดือน โดยเริ่มผลิตตั้งแต่วันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้มีรถยนต์รุ่นดังกล่าวรอส่งให้ลูกค้าราว 100 คัน