นายสุรศักดิ์ เรียงเครือ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ(คต.) กระทรงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในช่วงกลางเดือนม.ค.54 ที่ผ่านมา รัฐสภาอิตาลีได้รับร่าง พ.ร.บ.บังคับการติดฉลากแสดงประเทศแหล่งกำเนิด(country of origin labels)สินค้าอาหารทุกประเภท โดยจะมีผลบังคับใช้เป็นกฎหมายอย่างเป็นทางการภายหลังจากการรับร่างพ.ร.บ.ในอีก 60 วัน
สำหรับการออกกฎหมายการติดฉลากแสดงประเทศแหล่งกำเนิดของอิตาลี มีวัตถุประสงค์เพื่อให้การแสดงข้อมูลบนผลิตภัณฑ์อาหารมีความชัดเจนต่อผู้บริโภคมากขึ้น และเพื่อป้องกันอาหารจากต่างประเทศที่แอบอ้างว่าผลิตมาจากอิตาลี ซึ่งกฎหมายฉบับนี้จะเป็นประโยชน์ต่อทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค ร่างกฎหมายนี้ครอบคลุมถึงการระบุแหล่งที่มาของผลิตภัณฑ์อาหารที่มีส่วนประกอบเพียงชนิดเดียว (single ingredient products) และผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป(processed products) ซึ่งจะต้องระบุแหล่งที่มาของวัตถุดิบหลักและสถานที่แปรรูปอาหารในขั้นสุดท้าย
นายสุรศักดิ์ กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวของอิตาลีครอบคลุมสินค้าอาหารทุกประเภท ขณะที่กฎระเบียบของ EU บังคับใช้เฉพาะผลิตภัณฑ์อาหารประเภทผักและผลไม้, ไข่, น้ำผึ้ง, นมสด, น้ำมันโอลีฟ และเนื้อวัวเท่านั้น แต่ในอนาคตมีความเป็นไปได้ว่า EU จะขยายกฎระเบียบบังคับการติดฉลากแสดงประเทศแหล่งกำเนิดให้ครอบคลุมถึงผลิตภัณฑ์อาหารประเภทเนื้อไก่, เนื้อหมู และเนื้อแกะ
ทั้งนี้ ไทยส่งออกสินค้าอาหารไปยังอิตาลีโดยเฉลี่ยมูลค่า 10,600 ล้านบาท/ปี โดยในปี 53 ไทยส่งออกมูลค่า 9,700 ล้านบาท ลดลง 3% เมื่อเทียบกับปี 52 ที่ส่งออกมูลค่า 10,000 ล้านบาท ดังนั้นผู้ประกอบการไทยที่ส่งออกสินค้าอาหารไปอิตาลีจึงควรปฏิบัติตามกฎหมายการติดฉลากแสดงประเทศแหล่งกำเนิดสินค้าให้ถูกต้องก่อนส่งออก