นางจันทรา บูรณฤกษ์ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เปิดเผยว่า สำนักงาน คปภ.ได้ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 ธ.ค.49 ที่เห็นชอบให้มีมาตรการชดเชยส่วนต่างเบี้ยประกันภัยทรัพย์สิน คุ้มครองภัยก่อการร้ายในอัตราระหว่าง 0.5 - 2% ให้แก่ผู้ประกอบการในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ 5 จังหวัด คือ ยะลา, ปัตตานี, นราธิวาส, สตูล และอีก 4 อำเภอในสงขลา ได้แก่ อ.จะนะ, นาทวี, สะบ้าย้อย และเทพา โดยมีระยะเวลาดำเนินการ 3 ปี ตั้งแต่ปี 50 - 52
โดยต่อมา คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 16 มิ.ย.52 ให้ขยายระยะเวลามาตรการชดเชยส่วนต่างเบี้ยประกันภัยทรัพย์สิน คุ้มครองภัยก่อการร้ายดังกล่าวออกไปอีก 3 ปี จนถึง 31 ธ.ค.55 และขยายอัตราการชดเชยให้มากกว่าเดิม เป็นอัตราระหว่าง 0.3 - 2% ซึ่งเกณฑ์ชดเชยใหม่นี้จะทำให้ผู้ซื้อประกันภัยจ่ายเบี้ยน้อยลง
เลขาธิการ คปภ. กล่าวว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นการสนับสนุนนโยบายของภาครัฐ เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการลงทุนในเขตเศรษฐกิจเฉพาะกิจ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่นในการลงทุนมากขึ้น และส่งผลให้มีจำนวนผู้ประกอบการยื่นขอรับเงินชดเชยส่วนต่างเบี้ยประกันภัยเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจประกันภัยในภาคใต้ขยายตัวและเติบโตขึ้น
อย่างไรก็ดี ผลการดำเนินการในขณะนี้มีผู้ได้รับเงินชดเชยส่วนต่างเบี้ยประกันภัยดังกล่าว จำนวน 294 ราย เป็นจำนวนเงินชดเชยประมาณ 34 ล้านบาท(ข้อมูล ณ เดือนก.พ.54)