ค่าเงินเยนร่วงลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (18 มี.ค.) หลังจากที่ประชุมรัฐมนตรีคลังกลุ่ม G-7 มีมติให้ประเทศสมาชิกเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราเพื่อสกัดการแข็งค่าของเงินเยน พร้อมกับให้คำมั่นสัญญาว่าจะแทรกแซงตลาดอีกหากจำเป็น
เงินเยนร่วงลง 2.19% แตะที่ 80.560 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 78.830 เยนต่อดอลลาร์ ขณะที่เงินฟรังค์สวิสร่วงลง 0.20% แตะที่ 0.8996 ฟรังค์ต่อดอลลาร์ จากระดับ 0.8978 ฟรังค์ต่อดอลลาร์
ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 1.13% แตะที่ 1.4180 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.4022 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินปอนด์พุ่งขึ้น 0.57% แตะที่ 1.6232 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6140 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 1.55% แตะที่ 0.9961 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 0.9809 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 1.74% แตะที่ 0.7310 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7185 ดอลลาร์สหรัฐ
เงินเยนร่วงลงนับตั้งแต่ที่ประชุมรัฐมนตรีคลังกลุ่ม G-7 มีมติให้ประเทศสมาชิกเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราเพื่อสกัดการแข็งค่าของเงินเยน หลังจากเงินเยนพุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 76.25 เยนต่อดอลลาร์ ซึ่งทำให้รัฐมนตรีกลุ่ม G-7 กังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทั้งทางด้านเศรษฐกิจและการเงินของญี่ปุ่น
รายงานระบุว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ธนาคารกลางแคนาดา และธนาคารกลางเยอรมนี ได้เทขายเงินเยนเมื่อวานนี้ เพื่อให้เป็นไปตามมติของที่ประชุม G-7 และเพื่อยับยั้งการแข็งค่าของเงินเยน หลังจากญี่ปุ่นเผชิญวิกฤตการณ์ที่หนักหน่วงทั้งจากแผ่นดินไหว คลื่นสึนามิ และอุบัติเหตุที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์
บีโอเจอัดฉีดเงินเข้าสู่ตลาดการเงินภายในประเทศเพิ่มอีก 3 ล้านล้านเยนเมื่อวานนี้ เพื่อบรรเทาความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ขณะที่นายมาซาอากิ ชิรากาว่า ผู้ว่าการบีโอเจยืนยันว่า บีโอเจจะจัดหาเงินทุนเข้าสู่ตลาดการเงินอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับตลาด