สินค้าจากญี่ปุ่นที่วางจำหน่ายในจีนเริ่มเสื่อมความนิยม จากพิษวิกฤตนิวเคลียร์

หนังสือพิมพ์ไชน่า เดลี่รายงานว่า ห้างสรรพสินค้าและภัตตาคารญี่ปุ่นในประเทศจีนเริ่มหลีกเลี่ยงสินค้าที่นำเข้าจากญี่ปุ่น หลังจากที่ญี่ปุ่นได้รายงานว่า ระดับของสารกัมมันตรังสีที่ตรวจพบในผักโขมและผลิตภัณฑ์นมจากแหล่งผลิตที่อยู่ใกล้กับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์นั้นสูงเกินระดับมาตรฐานความปลอดภัย

พนักงานที่ห้างสรรพสินค้าและซูเปอร์มาร์เก็ตสัญชาติญี่ปุ่น อิโตะ โยกาโดะ ในเขตจ้าวหยางของกรุงปักกิ่งเผยว่า ผักโขมบนชั้นจำหน่ายที่ร้านนั้นมาจากซัพพลายเออร์ในท้องถิ่น และทางร้านไม่เคยสั่งผลิตภัณฑ์นมที่ผลิตในญี่ปุ่นมาจำหน่าย

ขณะเดียวกัน ร้านค้าปลีกหลายแห่งต่างเร่งแกะสลากผลิตภัณฑ์ที่ระบุว่าเป็นสินค้านำเข้าจากญี่ปุ่น ทั้งที่ก่อนหน้านี้สินค้าผลิตในญี่ปุ่นเคยได้รับความนิยมในกลุ่มลูกค้าหนุ่มสาวที่ทันสมัยเนื่องจากเชื่อว่าเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ

ไชน่า เดลี่ รายงานอ้างคำกล่าวของผู้จัดการร้านอาหารญี่ปุ่นในเขตจ้าวหยางที่กรุงปักกิ่งว่า เขาได้ยืนยันกับลูกค้าเพื่อให้มั่นใจว่าที่ร้านใช้ปลาแซลมอนที่นำเข้าจากนอร์เวย์ และไม่ได้นำเข้าอาหารหรือส่วนประกอบอาหารจากญี่ปุ่น

นอกจากนี้ การเพิ่มความเข้มงวดด้านการตรวจสอบระหว่างพรมแดนยังส่งผลกระทบต่อการนำเข้าสินค้าจากญี่ปุ่นด้วย

โดยนายเหยอ หยวนยง พนักงานของห้างสรรพสินค้าสัญชาติญี่ปุ่นใน GJ Japan Plaza ที่นครเซี่ยงไฮ้กล่าวว่า สต็อกปลาสด กุ้ง และปูมีจำนวนลดลง จากผลกระทบของการเพิ่มความเข้มงวดด้านการตรวจสอบสินค้าที่จุดพรมแดน

ทั้งนี้ คณะกรรมการด้านการเกษตรของเซี่ยงไฮ้เปิดเผยว่า เซี่ยงไฮ้ไม่ได้นำเข้าผลิตภัณฑ์นมหรือผักโขมจากญี่ปุ่นเนื่องจากผลกระทบของต้นทุนแรงงานที่พุ่งสูง และเนื่องจากผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเป็นสินค้าที่มีอายุสั้น