ธนาคารกกลางจีนประกาศปรับขึ้นเพดานกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ (RRR) อีก 0.50% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคมเป็นต้นไป
การปรับขึ้น RRR ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 3 ของปี 2554 และเป็นเดือนที่ 9 นับตั้งแต่ช่วงต้นปี 2553 ซึ่งอาจทำให้เพดานกันสำรองของธนาคารรายใหญ่ของประเทศแตะระดับที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 20.0% ในขณะที่ธนาคารขนาดกลางและขนาดเล็กจะต้องกันสำรอง 16.5% ของยอดเงินฝาก
นักวิเคราะห์ในตลาดปักกิ่งกล่าวว่า การคุมเข้มทางการเงินอย่างต่อเนื่องของจีนอาจเพิ่มแรงกดดันต่อการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระหว่างช่วงที่คึกคักที่สุดของฤดูกาลที่กำลังจะมาถึงในช่วงปลายไตรมาสที่ 1 นี้ โดยคาดว่า ราคาจะมีความแตกต่างกันอย่างมากและอาจมีความผันผวนสูง
-- มณฑลเฮย์หลงเจียงในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีนไม่สามารถขายถั่วเหลืองจากยอดที่นำออกประมูลขายจำนวน 20,689 ตัน จากสต็อกสำรองรัฐบาลได้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากที่ไม่สามารถจำหน่ายได้เช่นเดียวกันเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์
ทั้งนี้ ราคาเสนอซื้อขั้นต่ำกำหนดไว้ที่ 3,770 หยวน/ตัน ซึ่งต่ำกว่าราคาซื้อระหว่าง 3,800-3,900 หยวน/ตัน ในแหล่งเพาะปลูกที่สำคัญเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ปัจจุบัน ตลาดถั่วเหลืองภายในประเทศกำลังอยู่ในบรรยากาศของการเฝ้าจับตาดู เนื่องจากตลาดภายนอกประเทศที่ซบเซาและนักลงทุนใช้ความรอบคอบมากขึ้นในการเข้าสู่ตลาด เนื่องจากมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากภัยพิบัติจากเหตุแผ่นดินไหวในญี่ปุ่น ซึ่งอาจเพิ่มความกดดันต่อราคาถั่วเหลืองในระยะสั้น
-- อุปสงค์แป้งถั่วเหลืองของจีนคาดว่า จะเพิ่มขึ้นนับจากนี้ต่อไป เนื่องจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ภายในประเทศ
ผนวกกับแรงกระตุ้นจากราคาสุกรที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและยอดขายที่สูงขึ้น ความต้องการในการปรับสต็อกของฟาร์มจะมีมากขึ้น โดยข้อมูลสถิติของสำนักงานเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีนบ่งชี้ว่า ราคารับซื้อเฉลี่ยสุกรพุ่งแตะ 14.89 หยวน/กก. เมื่อวันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 5.32 หยวน เมื่อเทียบปีต่อปี และสูงกว่าราคาประมาณ 10 หยวน/กก. ในเดือนมิถุนายนปี 2553 เป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม ตลาดแป้งถั่วเหลืองในปัจจุบันยังมีปริมาณการค้าในระดับที่ต่ำ แต่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นตามอุปสงค์ในอาหารสัตว์ที่เพิ่มขึ้น สำนักข่าวซินหัวรายงาน