นายโสภณ อัศวานุชิต ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สาย Corperate Finance ธนาคารไทยพาณิชย์(SCB) เปิดเผยว่า ขณะนี้โครงการทวายในประเทศพม่า ซึ่งมีมูลค่าโครงการลงทุน 8,000 ล้านดอลลาร์ กำลังเป็นที่สนใจของนักลงทุนจำนวนมาก โดยเฉพาะจากจีน และเกาหลีใต้ ในขณะที่ไทยถือว่ามีความได้เปรียบทั้งในเชิงโครงสร้างเศรษฐกิจ สังคมและความสัมพันธ์ที่ดีสร้างโอกาสการเข้าลงทุนได้ ดังนั้น รัฐบาลควรให้การสนับสนุนและปูทางเพื่อให้ภาคเอกชนไทยได้เข้าลงทุนในโครงการดังกล่าว
"อยากให้รัฐบาลช่วยเข้ามาสนับสนุนทั้งกฎระเบียบ และความเสี่ยงต่างๆ ตอนนี้ก็เอกชนไทยหลายแห่งสนใจเข้าไปลงทุน มีแบงก์ไทยหลายแห่งก็พร้อมปล่อยกู้ให้บริษัทไทยไปลงทุนในประเทศ...ตอนนี้มีแต่ ITD ที่เข้าไปลงทุน แต่ก็ต้องแบกรับความเสี่ยงการลงทุน ดังนั้นก็อยากให้รัฐบาลเข้ามาช่วยสนับสนุนการลงทุนของเอกชน ถ้าเราไม่เร่งทำ จีน และเกาหลีใต้ก็จะมาทำแทน " นายโสภณ กล่าว
ทั้งนี้ รัฐบาลควรวางประเด็นดังกล่าวเป็นวาระสำคัญ เพราะขณะนี้ไม่มีโครงการลงทุนสำคัญในภูมิภาคที่ใหญ่เท่าโครงการทวายของพม่าแล้ว ดังนั้นรัฐบาลควรต้องมีการวางระเบียบกฎเกณฑ์ เพื่อสนับสนุนการลงทุนทั้งด้านศุลกากร การเคลื่อนย้ายเงินลงทุน และควรเร่งดำเนินการก่อนที่จะมีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558
นายโสภณ กล่าวในงานเสวนาเรื่อง Four Years Till AEC:Thailand's Role in the ASEAN เกี่ยวกับบทบาทของไทยใน AEC ว่า AEC จะมีบทบาทสำคัญให้มีการเคลื่อนย้ายสินค้า บริการ เงินทุน และแรงงานได้อย่างเสรีภายในภูมิภาคอาเซียนภายในปี 2558 ซึ่งจะเป็นโอกาสให้ภาคเอกชนไทยได้ขยายตลาดในระดับภูมิภาค เนื่องจากตลาดที่กว้างขึ้นจากจำนวนประชากรรวมทั้งประชาคมอาเซียนที่มีมากกว่า 566 ล้านคน ซึ่งเท่ากับยุโรปทั้งทวีป และมี GDP มากกว่า 1.17 ล้านล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ ผลจากการตลาดที่ขยายตัวมากขึ้น ทำให้สถาบันการเงินทั้งระบบจะต้องปรับตัวรองรับการขยายตัวดังกล่าว เนื่องจากธุรกิจต่างๆที่มีแผนขยายตลาดในระดับภูมิภาค ซึ่งในส่วนสถาบันการเงินไทย จะต้องเตรียมความพร้อมรองรับการบริการลูกค้า โดยวางยุทธศาสตร์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแข่งขันที่ลูกค้าต้องเผชิญ