นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) มีมติชดเชยราคาน้ำมันดีเซลเพิ่มอีก 40 สต./ลิตร จากเดิมที่ได้ชดเชยอยู่ที่ลิตรละ 4.70 บาท เพิ่มเป็น 5.10 บาท โดยมีผลตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (23 มี.ค.) เพื่อพยุงราคาขายปลีกดีเซลในประเทศไม่ให้สูงเกินกว่าลิตรละ 30 บาทตามนโยบายรัฐบาล
การเพิ่มการชดเชยดังกล่าวทำให้ต้องใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มเป็นวันละ 307 ล้านบาท จาก 285 ล้านบาท หรือคิดเป็น 9,520 ล้านบาท/เดือน จากเดิม 8,862 ล้านบาท/เดือน
ทั้งนี้ การชดเชยราคาดีเซล 11 ครั้งที่ผ่านมา ใช้เงินไปแล้ว 13,724 ล้านบาท อย่างไรก็ตามปัจจุบันกองทุนน้ำมันฯ ยังคงมีเงินเหลือ 15,624 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถดูแลราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลให้อยู่ในระดับไม่เกิน 30 บาท/ลิตรได้จนถึงสิ้นเดือน เม.ย.ตามที่กำหนดไว้
รมว.พลังงาน กล่าวว่า สถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องจากสาเหตุความรุนแรงในประเทศลิเบีย ซึ่งส่งผลให้ค่าการตลาดน้ำมันดีเซลอยู่ในระดับต่ำที่ประมาณ 71 สตางต์/ลิตร
ส่วนการนำเข้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว(แอลพีจี) คาดว่า ในเดือน มี.ค.-เม.ย.นี้จะมีการนำเข้าเดือนละประมาณ 110,000 ตัน จากเดือน ก.พ.ที่มีปริมาณนำเข้า 111,600 ตัน ทำให้กองทุนน้ำมันฯ ต้องชดเชยแอลพีจีไปแล้วประมาณ 2,000 ล้านบาท ในอัตรา 18 บาท/กิโลกรัม
สำหรับสถานการณ์ความรุนแรงในลิเบียขณะนี้ยังประเมินได้ยาก ซึ่งก็ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดว่ากองกำลังนานาชาติที่นำโดยสหรัฐฯ จะเข้าไปคลี่คลายสถานการณ์ได้เร็วแค่ไหน อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าราคาน้ำมันตลาดโลกจะอยู่ในระดับสูงกว่า 100 ดอลลาร์/บาร์เรล เพราะขณะนี้เหตุการณ์ความรุนแรงได้ลุกลามไปประเทศใกล้เคียง แต่หากสถานการณ์เลวร้ายมากขึ้นมีโอกากาสที่ราคาน้ำมันดิบจะปรับขึ้นไปถึง 140 ดอลลาร์/บาร์เรล