ทั้งนี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันอีกครั้งในวันที่ 30 มี.ค.54
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมได้รับทราบสถานการณ์ของผลผลิตปาล์มในประเทศว่า ปริมาณผลผลิตปาล์มน้ำมันจะเริ่มทยอยออกสู่ตลาดมากขึ้น โดยภายในสิ้นเดือนนี้คาดว่าปริมาณสต็อกจะเริ่มเข้าสู่ใกล้เคียงภาวะปกติและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ซึ่งเชื่อว่าจะไม่ทำให้เกิดปัญหาน้ำมันปาล์มขาดแคลนอย่างแน่นอน
พร้อมกันนี้ ได้ขอให้คณะกรรมการฯ ช่วยกันทบทวนกรณีน้ำมันปาล์ม 40,000 ตัน ที่เคยมีมติว่าจะนำน้ำมันภายในประเทศใช้กลั่น โดยรัฐบาลจะออกเงินชดเชยให้นั้นยังมีความจำเป็นอยู่หรือไม่ ซึ่งวันนี้กระทรวงพาณิชย์และภาคเอกชนยังตอบไม่ได้ และขอเวลาไปหาข้อมูลอีก 7 วัน ซึ่ง กนป.จะนัดประชุมอีกครั้งในวันพุธหน้า
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมยังได้หารือเพื่อเตรียมการรับมือกับผลผลิตที่ออกมามาก เนื่องจากเกรงว่าเกษตรกรจะขายผลปาล์มสดได้น้อยลง จึงให้กระทรวงพลังงานไปดูการเพิ่มไบโอดีเซลจากบี 2 เป็นบี 3 บี 5 เพื่อจะดูดซับปริมาณผลผลิตที่เพิ่มขึ้นได้ ซึ่งตั้งสมมติฐานว่าถ้าเป็นไปได้อยากให้เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. เป็นต้นไป
นอกจากนี้ อาจขอให้กระทรวงพลังงานไปกำหนดน้ำมันปาล์มดิบที่จะซื้อและกำหนดราคาให้ชัดเจน เพื่อให้เกษตรกรมีเวลาปรับตัว เช่น อาจจะให้กำหนดราคาซื้อน้ำปาล์มดิบในประเทศ ในราคากิโลกรัมละ 40 - 41 บาท ซึ่งถ้าดำเนินการตามนี้ได้ เกษตรกรก็สามารถขายปาล์มทลายได้ในราคากิโลกรัมละ 6 บาทกว่า