รัฐบาลญี่ปุ่นประเมินว่า ต้นทุนทางเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ส่งผลกระทบกับจังหวัดต่างๆถึง 7 จังหวัดนั้น อาจจะสูงถึง 25 ล้านล้านเยน (3.09 แสนล้านดอลลาร์) ขณะเดียวกันก็เตือนว่า การฟื้นตัวของส่งออกและผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นอาจหยุดชะงัก เนื่องจากภัยพิบัติที่เกิดขึ้น
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ระบบสาธารณูปโภค ที่อยู่อาศัย และสถานประกอบการในพื้นที่ต่างๆที่ถูกทำลายล้างจากภัยพิบัติอาจจะมีมูลค่าความเสียหายในระหว่าง 16 - 25 ล้านล้านเยน ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้อาจจะทำให้อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจลดลงไปอีก 0.5%
ทั้งนี้ ผลที่แท้จริงอาจจะออกมาเลวร้ายยิ่งกว่านี้ เนื่องจากการคาดการณ์ดังกล่าวไม่ได้พิจารณาเรื่องผลกระทบด้านลบจากการขาดแคลนพลังงานที่เกิดขึ้นเพราะวิกฤตโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในจังหวัดฟูกุชิม่า อย่างไรก็ดี สำนักงานครม.ญี่ปุ่นมองว่า แรงกดดันที่มีต่อเศรษฐกิจอาจจะได้รับการชดเชยจากงานฟื้นฟูบูรณะประเทศ ซึ่งจะทำให้ความต้องการภายในประเทศพุ่งสูงขึ้น
นายคาโอรุ โยซาโน่ รัฐมนตรีนโยบายการคลังและเศรษฐกิจ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า รัฐบาลได้ตัวเลขดังกล่าวมาจากข้อมูลที่มีอยู่จนถึงขณะนี้ ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ไม่แน่นอน แต่เนื่องจากมีประชาชนบางส่วนกังวลว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นอาจจะหดตัวลง เขาจึงจำเป็นต้องออกมาบอกตัวเลขประมาณการมูลค่าความเสียหายที่แท้จริงของจีดีพีเพื่อคลี่คลายความวิตกดังกล่าว
ทั้งนี้ การประเมินของรัฐบาลครอบคลุมพื้นที่ในจังหวัดอิวาเตะ มิยางิ ฟูกุชิม่า ฮอกไกโด อาโอโมริ อิบารากิ และชิบะ โดยมีการเปรียบเทียบตัวเลขคาดการณ์ความเสียหายดังกล่าวกับตัวเลขความเสียหายราว 9.6 ล้านล้านเยนในเหตุแผ่นดินไหวที่โกเบเมื่อปี 2538