สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กยังคงปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (23 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังเดินหน้าเข้าซื้อทองคำอย่างคึกคัก เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากสถานการณ์รุนแรงในตะวันออกกลาง และจากภาวะเงินเฟ้อที่เป็นผลมาจากราคาพลังงานที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 10.40 ดอลลาร์ หรือ 0.7% ปิดที่ 1,438 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,425.80-1,441.20 ดอลลาร์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 92.90 เซนต์ ปิดที่ 37.198 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 11.55 เซนต์ ปิดที่ 4.4285 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 20.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,760.00 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 11.45 ดอลลาร์ ปิดที่ 749.30 ดอลลาร์/ออนซ์
นักวิเคราะห์หลายคนในตลาดทองคำนิวยอร์กว่า ราคาทองคำมีแนวโน้มพุ่งขึ้นแตะระดับ 1,500 ดอลลาร์/ออนซ์ในไม่ช้านี้ หากราคาสามารถพุ่งขึ้นฝ่าแนวต้านที่ระดับ 1,475 ดอลลาร์ไปได้ เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลางและความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อที่เป็นผลมาจากการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน ยังคงเป็นแรงกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า กองกำลังชาติพันธมิตรภายใต้การนำของสหรัฐกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการโจมตีพื้นที่ทางบกในลิเบีย หลังจากสหรัฐอ้างว่ากองกำลังชาติพันธมิตรประสบความสำเร็จในการยึดครองน่าฟ้าลิเบีย เพื่อปกป้องพลเรือนจากกองกำลังทหารของพันเอกมูอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย
นอกจากนี้มีรายงานว่า สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางได้ทวีความรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะที่ซีเรีย หลังจากกองกำลังทหารของรัฐบาลซีเรียได้ใช้อาวุธหนักสลายการชุมนุม ส่วนที่เยเมนนั้น ประธานาธิบดีเยเมนได้ออกแถลงการณ์เตือนว่า เยเมนอาจเข้าสู่สงครามกลางเมืองหากเขาถูกบีบให้ลาออกจากตำแหน่ง