ค่าเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (23 มี.ค.) หลังจากรัฐสภาโปรตุเกสปฏิเสธมาตรการรัดเข็มขัดของรัฐบาล ซึ่งการตัดสินใจดังกล่าวทำให้เกิดความกังวลว่าอาจทำให้โปรตุเกสต้องขอรับความช่วยเหลือด้านการเงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับเงินเยน หลังจากสหรัฐเผยยอดขายบ้านใหม่ที่ร่วงลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.70% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.4102 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคารที่ 1.4201 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ร่วงลง 0.79% แตะที่ 1.6237 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6366 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.11% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 80.870 เยน จากระดับ 80.960 เยน แต่ดีดตัวขึ้น 0.53% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.9080 ฟรังค์ จากระดับ 0.9032 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.34% แตะที่ 1.0139 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0105 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ทรงตัวที่ 0.7408 ดอลลาร์สหรัฐ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นักลงทุนเทขายเงินยูโรเพราะกังวลว่า โปรตุเกสอาจจะต้องขอความช่วยเหลือด้านการเงินจากไอเอ็มเอฟและสหภาพยุโรป (อียู) หลังจากรัฐสภาโปรตุเกสปฏิเสธมาตรการรัดเข็มขัดของรัฐบาล โดยขณะนี้รัฐบาลโปรตุเกสกำลังประสบความยากลำบากในการปรับลดงบประมาณและยอดขาดดุลงบประมาณที่พุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ข่าวการปฏิเสธมาตรการรัดเข็มขัดในโปรตุเกสมีขึ้นเพียงวันเดียวก่อนที่การประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มอียูจะเริ่มขึ้นในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์นี้ โดยที่ประชุมจะหารือกันเกี่ยวกับการเพิ่มความร่วมมือด้านนโยบายเศรษฐกิจในกลุ่มยูโรโซน
มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้ของโปรตุเกสลง 2 ขั้น มาอยู่ที่ระดับ A3 เนื่องจากความกังวลที่ว่ารัฐบาลโปรตุเกสอาจเผชิญกับปัญหาการผิดนัดชำระหนี้และยอดขาดดุลการคลัง
ค่าเงินปอนด์ร่วงลงหลังจากนายจอร์จ ออสบอร์น รมว.คลังอังกฤษได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศลงเหลือ 1.7% ในปี 2554 และ 2.5% ในปี 2555 จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ว่าจะขยายตัว 2.1% ในปี 2554 และ 2.6% ในปี 2555
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับเงินเยน หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายบ้านใหม่เดือนก.พ.ร่วงลง 16.9% แตะระดับ 250,000 ยูนิต/ปี ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 290,000 ยูนิต ส่วนราคากลางของบ้านใหม่ร่วงลง 13.9% แตะที่ 202,100 ดอลลาร์ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ปี 2546
ทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.พ. และตัวเลขประมาณการผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 4 ปี 2553