นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยเตรียมปรับตัวเลขประมาณการทางเศรษฐกิจในปีนี้ของไทยในเดือน เม.ย.นี้ หลังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การสู้รบในประเทศลิเบียและสถานการณ์ภัยพิบัติในประเทศญี่ปุ่น
โดยเบื้องต้นได้ประเมินผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว สึนามิ และการระเบิดของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ประเทศญี่ปุ่นแล้วคาดว่า จะส่งผลให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยในปีนี้ลดลงราว 0.1- 0.2%
ทั้งนี้ เนื่องจากการขยายตัวด้านการส่งออกของไทยไปยังญี่ปุ่นจะลดลงเหลือเพียง 8-10% จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัวถึง 9-12% จำนวนนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นลดลงจาก 1.04 ล้านคน เหลือเพียง 9.9 แสนคน แต่ยังเชื่อว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยในปีนี้ยังอยู่ที่ระดับ 4-5% โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนเรื่องราคาสินค้าเกษตรที่ปรับตัวสูงขึ้น การส่งออกในภาพรวมยังขยายตัวได้ดี และการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในช่วงกลางปีซึ่งจะทำให้มีเม็ดเงินสะพัดราว 4-5 หมื่นล้านบาท
ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ กล่าวว่า สำหรับภาวะเศรษฐกิจภูมิภาคในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้คาดว่า จะมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้น 2.4% ซึ่งเป็นผลจากการส่งออกที่ยังขยายตัวได้ดี ภาคการบริโภคและการลงทุนยังมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งส่งผลให้เศรษฐกิจไทยในทุกภูมิภาคของประเทศยังคงขยายตัวได้ดี โดยเฉพาะสินค้าเกษตรที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจภูมิภาคในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้คาดว่าจะคงขยายตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรก โดยคาดว่าจะขยายตัวได้ 4.4% ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจไทยมีการฟื้นตัวอย่างชัดเจนในช่วงไตรมาสที่ 2