สศค.เผยดัชนีรวมเตือนภัยฯก.พ.อยู่ที่ 6.74 บ่งชี้สถานะการคลังยังแข็งแกร่ง

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday March 24, 2011 15:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายนริศ ชัยสูตร ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ในเดือนกุมภาพันธ์ดัชนีรวมเตือนภัยทางด้านการคลัง (Fiscal Early Warning Composite Index) มีค่าอยู่ที่ 6.74 ซึ่งถือว่าสถานะด้านการคลังอยู่ในระดับแข็งแกร่งมาก เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 ซึ่งค่าดัชนีรวมฯ มีค่าเท่ากับ 100 โดยมีตัวชี้วัดส่งสัญญาณผิดปกติ 1 ตัว คือ ดุลเงินสดตามระบบบัญชีการคลัง (ไม่รวมรายจ่ายชำระต้นเงินกู้) ซึ่งขาดดุลเกินระดับที่กำหนด (Threshold)

แต่การขาดดุลดังกล่าวสอดคล้องกับความจำเป็นในการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล และการส่งสัญญาณเพียงตัวชี้วัดเดียว จึงไม่เป็นที่น่าวิตกแต่อย่างใด เนื่องจากเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 ตัวชี้วัดส่งสัญญาณผิดปกติพร้อมกัน 5-9 ตัว และส่งสัญญาณผิดปกติติดต่อกันเป็นระยะเวลามากกว่า 10 เดือน

สำหรับในช่วง 24 เดือนข้างหน้า (มีนาคม 2554 — กุมภาพันธ์ 2556) ภายใต้เงื่อนไขที่รัฐบาลไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายอย่างมีนัยสำคัญ ความน่าจะเป็นในการเกิดวิกฤตการคลังมีค่าเท่ากับ 0.05 ถือว่าอยู่ในระดับต่ำ เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 ซึ่งความน่าจะเป็นในการเกิดวิกฤตการคลังในระยะ 24 เดือนถัดมามีค่าอยู่ระหว่าง 0.70-0.96

ทั้งนี้ สศค. ได้จัดตั้งระบบสัญญาณเตือนภัยทางด้านการคลัง (Fiscal Early Warning System: FEWS) เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงด้านการคลัง และวัดระดับความแข็งแกร่งหรืออ่อนแอของสถานะด้านการคลัง (Fiscal Health) โดยติดตามตัวชี้วัดที่มีความสามารถในการเตือนภัยวิกฤตการคลังที่เคยเกิดขึ้นในอดีตได้ 14 ตัวชี้วัด ประกอบด้วย

ตัวชี้วัดสถานะด้านการคลัง 6 ตัว ได้แก่ ผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลรวม ผลการจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคล ดุลเงินสดตามระบบบัญชีการคลัง (ไม่รวมรายจ่ายชำระต้นเงินกู้) ระดับเงินคงคลังปลายงวด สัดส่วนเงินคงคลังต่อตั๋วเงินคลังคงค้าง และการให้สินเชื่อสุทธิของภาคธนาคารแก่ภาคสาธารณะที่มิใช่สถาบันการเงิน

ตัวชี้วัดสถานะด้านเศรษฐกิจมหภาคและการเงิน 8 ตัว ได้แก่ มูลค่าการส่งออก อัตราแลกเปลี่ยนอ้างอิง อัตราส่วนหนี้ต่างประเทศระยะสั้นต่อเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป ดุลการชำระเงิน ดุลบัญชีเดินสะพัด และอัตราส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวมของระบบสถาบันการเงิน

ทั้งนี้ สศค.ได้นำตัวชี้วัดข้างต้นมาจัดทำเป็นดัชนีรวมเตือนภัยทางด้านการคลัง (Fiscal Early Warning Composite Index) โดยมีผลการศึกษาสรุปได้ ดังนี้ วิกฤตในอดีต ดัชนีรวมฯ สามารถพยากรณ์ถึงวิกฤตการคลังที่จะเกิดขึ้นในอดีต 3 เหตุการณ์ ได้ค่อนข้างแม่นยำ ได้แก่ วิกฤติการณ์ราคาน้ำมัน ครั้งที่ 1 (ช่วงปี 2519-2523), วิกฤติการณ์ราคาน้ำมัน ครั้งที่ 2 (ช่วงปี 2528-2530) และ วิกฤตค่าเงิน วิกฤตสถาบันการเงิน และการรับภาระหนี้ของกองทุนฟื้นฟูฯ (FIDF) (ช่วงปี 2540-2545) ซึ่งข้อเท็จจริงปรากฎว่าทั้ง 3 เหตุการณ์นำไปสู่การเกิดวิกฤตการคลังที่มีการขาดดุลงบประมาณ และการก่อหนี้ของรัฐบาลในระดับที่สูง เพื่อก รฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับเข้าสู่สภาวะปกติ

"สศค. อยู่ระหว่างการพัฒนาระบบสัญญาณเตือนภัยทางด้านการคลัง เพื่อให้สามารถพยากรณ์วิกฤตการคลังที่ซับซ้อน และมีสาเหตุของการเกิดวิกฤตแตกต่างจากเหตุการณ์ในอดีตได้ ซึ่งจะส่งผลให้การเตือนภัยทางด้านการคลังมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น"นายนริศ กล่าวสรุป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ