นายวีระพล จิรประดิษฐกุล อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยถึงสถานการณ์การใช้พลังงานภาพรวมในเดือน ก.พ.54 ว่า มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนม.ค.54 โดยการใช้กลุ่มน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 4.5% จาก 20.4 ล้านลิตร/วัน มาอยู่ที่ 21.3 ล้านลิตร/วัน เช่นเดียวกับการใช้กลุ่มน้ำมันดีเซลหมุนเร็วเพิ่มขึ้น 1.8% จาก 52.4 ล้านลิตร/วัน เป็น 53.3 ล้านลิตร/วัน และการใช้ NGV เพิ่มขึ้น 10.8% จาก 5,770 ตัน/วัน เป็น 6,390 ตัน/วัน ในขณะที่การใช้ LPG ในเดือนก.พ.54 ลดลง 0.8% อยู่ที่ 482,000 ตัน/เดือน
ทั้งนี้ในเดือนมี.ค.(ข้อมูล 1-19 มี.ค.) การใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินมีปริมาณ 20.7 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากเดือนก.พ. 2.9% ในขณะที่การใช้น้ำมันกลุ่มดีเซลมีปริมาณ 56.9 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้น 6.7% การใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินเพิ่มขึ้น โดยเบนซิน 91 และ 95 อยู่ที่ 8.4 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากเดือนม.ค. 4.6% และการใช้แก๊สโซฮอล์ อยู่ที่ 12.9 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้น 4.4% เป็นผลจากเทศกาลตรุษจีนในช่วงต้นเดือนและมีวันหยุดติดต่อกันในช่วงกลางเดือน ทำให้ประชาชนมีการเดินทางและใช้เชื้อเพลิงเพิ่มมากขึ้น
ส่วนการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา มีปริมาณเพิ่มขึ้น 32.2% อยู่ที่ 45.9 ล้านลิตร/วัน ขณะที่การใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็วบี 5 ลดลงถึง 63.0% เหลือเพียง 6.1 ล้านลิตร/วัน ซึ่งเป็นผลจากการที่รัฐบาลยังคงเดินหน้านโยบายตรึงราคาน้ำมันดีเซลให้มีราคาไม่เกิน 30 บาท/ลิตร ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันดีเซลเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเพราะราคาอยู่ในระดับต่ำ ประกอบกับการที่รัฐบาลชะลอการจำหน่ายน้ำมันดีเซลหมุนเร็วบี 5 เพื่อบรรเทาปัญหาราคาน้ำมันปาล์มขาดแคลน
สำหรับการใช้ LPG มีปริมาณ 482,000 ตัน/เดือน หรือ 17,200 ตัน/วัน ลดลงจากเดือนม.ค. 0.8% ทั้งนี้ เป็นการลดลงในภาคปิโตรเคมี เนื่องจากโรงแยกก๊าซหน่วยที่ 6 หยุดซ่อมบำรุงตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค.-19 ก.พ.54 ทำให้โรงงานปิโตรเคมีบางแห่งต้องลดกำลังการผลิตลง โดยภาคปิโตรเคมีมีปริมาณใช้ลดลง 6.5% อยู่ที่ 159,000 ตัน/เดือน หรือ 5,700 ตัน/วัน ส่วนการใช้ในภาคครัวเรือนและการใช้ในภาคขนส่งมีปริมาณใกล้เคียงกับเดือนก่อน คือ การใช้ในภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้น 0.8% อยู่ที่ 199,000 ตัน/เดือน หรือ 7,100 ตัน/วัน และการใช้ในภาคขนส่งเพิ่มขึ้น 2.9% อยู่ที่ 61,000 ตัน/เดือน หรือ 2,100 ตัน/วัน ในขณะที่ภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 6.9% อยู่ที่ 62,000 ตัน/เดือน หรือ 2,300 ตัน/วัน ทำให้เดือนก.พ.54 มีการนำเข้า LPG จากต่างประเทศ 114,000 ตัน มูลค่ารวม 3,000 ล้านบาท
ทางด้านการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงมีปริมาณรวมทั้งหมด 844,000 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 3.4% มูลค่านำเข้ารวม 72,000 ล้านบาท ลดลงจากเดือนก่อน 0.1% โดยแบ่งเป็นการนำเข้าน้ำมันดิบ 790,000 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้น 2.5% มูลค่านำเข้า 68,000 ล้านบาท ลดลง 0.3% และน้ำมันสำเร็จรูป 54,000 บาร์เรล/วัน มูลค่านำเข้า 3,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.5% และ 3.5% ตามลำดับ
โดยการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปที่เพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งเป็นผลจากโรงกลั่นบางจากมีการนำเข้าน้ำมันดีเซลหมุนเร็วเพื่อทดแทนส่วนที่ขาดหายไปจากการ shutdown ในเดือนก.พ.โรงกลั่นลดการส่งออกลง ทำให้การส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปมีปริมาณเพียง 93,000 บาร์เรล/วัน เป็นมูลค่าส่งออก 8,500 ล้านบาท โดยปริมาณส่งออกลดลง 43.2% และมูลค่าลดลง 42.9%