สศอ.เผยดัชนีอุตฯ ก.พ. ติดลบ 3.43% อัตราการใช้กำลังการผลิต 59.10%

ข่าวเศรษฐกิจ Monday March 28, 2011 14:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสุทธินีย์ พู่ผกา ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนกุมภาพันธ์ 2554 อยู่ที่ระดับ 176.94 ลดลง 3.43% จากระดับ 183.23

ดัชนีการส่งสินค้า อยู่ที่ระดับ 182.85 ลดลง 0.98% จากระดับ 181.08 ดัชนีแรงงานในภาคอุตสาหกรรม อยู่ที่ระดับ 115.32 ลดลง -1.44% จากระดับ 117.00 ขณะที่ดัชนีผลิตภาพแรงงานในภาคอุตสาหกรรม อยู่ที่ระดับ 151.16 เพิ่มขึ้น 6.38% จากระดับ 142.09 ดัชนีสินค้าสำเร็จรูปคงคลัง 185.58 เพิ่มขึ้น 1.09% จากระดับ 183.58 โดยอัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 59.10%

อุตสาหกรรมที่ส่งผลต่อการลดลงของ MPI ที่สำคัญได้แก่ การผลิต Hard Disk Drive การกลั่นน้ำมัน ขณะที่กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงอุตสาหกรรมอาหารยังขยายตัวได้ดี ส่วนปัจจัยแผ่นดินไหวที่ประเทศญี่ปุ่นประกอบกับถูกคลื่นยักษ์สึนามิถล่ม เมื่อกลางเดือนมีนาคมจะส่งผลต่อ MPI ในอีก 2 เดือนข้างหน้า

ด้านการผลิต Hard Disk Drive เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนการผลิตและจำหน่าย ลดลงใกล้เคียงกัน 11.6% และ 10.0% ตามลำดับ เนื่องจากปีก่อนตลาด Hard Disk ขยายตัวได้ดีกว่าปีนี้ จากการฟื้นตัวของความต้องการสินค้าคอนซูเมอร์อิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลก รวมถึงผลของการปรับปรุงระบบและการอัพเกรดคอมพิวเตอร์

การกลั่นปิโตรเลียม เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน การผลิตและจำหน่ายลดลง 22.3% และ11.2% ตามลำดับ เนื่องจากผู้ประกอบการปิดโรงกลั่นเพื่อซ่อมบำรุงเครื่องจักรประจำปี การผลิตเครื่องรับโทรทัศน์ เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน การผลิตและการจำหน่ายโทรทัศน์รวมทั้งจอ CRT, LCD และ PLASMA การผลิตและการจำหน่ายลดลง 29.4% และ 22.6% ตามลำดับ เนื่องจากตลาดในประเทศลดลง 34.5% ส่วนการส่งออกเพิ่มขึ้น 6.5%

การผลิตเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน การผลิตและจำหน่ายลดลง 3.9% และ 6.8% เนื่องจากวัตถุดิบราคาสูงขึ้น และมีบางส่วนย้านฐานการผลิตไปต่างประเทศ ขณะที่การผลิตรถยนต์ เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน การผลิตและการจำหน่าย เพิ่มขึ้น 9.5% และ 9.9% ยังคงขยายตัวอย่างเนื่องจากรถยนต์นั่งขนาดเครื่องยนต์ไม่เกิน 1800 cc. โดยเฉพาะรถยนต์ขนาดเล็ก เนื่องจากประหยัดพลังงาน ประกอบกับมีการผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันจากปัจจัยราคาพืชผลทางการเกษตรที่ปรับตัวดีขึ้นส่งผลต่อยอดการจำหน่ายรถกะบะขนาด 1ตัน เพิ่มขึ้น

การผลิตเครื่องปรับอากาศ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การผลิตและจำหน่าย เพิ่มขึ้น 25.1% และ 24.9% เนื่องจากสาเหตุหลักมาจากภาวะโลกร้อนเป็นผลให้ความต้องการใช้เครื่องปรับอากาศเพิ่มขึ้น รวมทั้งเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวผู้ประกอบการได้ส่งสินค้ารุ่นใหม่ออกสู่ตลาดให้เป็นทางเลือกแก่ผู้บริโภคโดยเน้นพัฒนาสินค้าที่มีคุณภาพประหยัดพลังงาน และรักษาสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ จึงได้รับคำสั่งซื้อเข้ามาจากสหรัฐอเมริกา และยุโรปอย่างต่อเนื่อง

ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การผลิตและการจำหน่ายเพิ่มขึ้น 14.4% และ 13.7% ตามลำดับ ตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว และมีผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์เข้าสู่ตลาด เพื่อตอบสนองความต้องการมากขึ้น โดยทั้งนี้ทาง SIA (Semiconductor Industry Association) ได้รายงานยอดขายชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เดือนมกราคมมีมูลค่าเพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 1.5% และเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 14% เนื่องจากได้รับประโยชน์จากการเติบโตอย่างมั่นคงที่มาจากความต้องการในหลากหลายผลิตภัณฑ์ ขณะที่สินค้าที่ใช้อยู่ทุกวันมีความสามารถมากขึ้น เร็วขึ้นและมีราคาถูกลง

อาหารทะเลกระป๋องและแช่แข็ง เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน การผลิตและการจำหน่ายลดลง 6.8% และ 4.2% ตามลำดับ เนื่องจากอากาศแปรปรวนและน้ำท่วมทำให้มีปริมาณกุ้งน้อยมีกว่าก่อนโดยตลาดส่งออกยังมีความต้องการต่อเนื่อง ในขณะที่สินค้าประเภทปลาทูน่ากระป๋อง และปลาซาร์ดีนกระป๋อง ภาวะการผลิตและการจำหน่ายเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 10.7% และ 5.1% เนื่องจากมีคำสั่งซื้อสินค้าเข้ามาอย่างสม่ำเสมอปริมาณปลายังมีมากเพียงพอกับความต้องการ และราคาปรับตัวขึ้นเล็กน้อย โดยเฉพาะปลาซาร์ดีนกระป๋องตลาดมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นทั้งในประเทศและการส่งออก เป็นผลมาจากผู้ประกอบการได้เพิ่มความหลากหลายของสินค้า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ