นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติให้การไฟฟ้านครหลวง(กฟน.) เพิ่มทุนในโครงการเพื่อขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าของบริษัท ผลิตไฟฟ้าและน้ำเย็น จำกัด(DCAP) โดยใช้งบประมาณดำเนินงานและงบประมาณจ่ายเงินเพื่อการเพิ่มทุนประจำปี 2554 จำนวน 201 ล้านบาท
ทั้งนี้ มติ ครม.เมื่อวันที่ 13 ต.ค.52 เห็นชอบและอนุมัติโครงการลงทุนเพื่อขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าของบริษัท DCAP วงเงินลงทุนรวม 1,816 ล้านบาท โดยจัดสรรจากการเพิ่มทุนในส่วนของผู้ถือหุ้นจำนวน 670 ล้านบาท ประกอบด้วย กฟผ., บมจ.ปตท.(PTT) และ กฟน.ในสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 35:35:30 เป็นเงินลงทุน 234.5, 234.5 และ 201.0 ล้านบาท ตามลำดับ
ต่อมาเมื่อวันที่ 8 ก.พ.54 ครม.มีมติว่า การดำเนินโครงการลงทุนดังกล่าวยังไม่ทำให้ กฟน.เกิดค่าเสียโอกาสในการดำเนินธุรกิจ ทั้งนี้ บริษัท DCAP ได้เรียกชำระเงินค่าหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 2 งวด รวมเป็นเงิน 94.632 ล้านบาท ประกอบด้วย งวดแรกจำนวนเงิน 67.50 ล้านบาท และงวดที่ 2 จำนวนเงิน 27.132 ล้านบาท ซึ่ง กฟผ.และ บมจ.ปตท. ได้ชำระเงินค่าหุ้นเพิ่มทุนงวดแรกให้แก่บริษัท DCAP แล้ว ส่วน กฟน. ได้มีหนังสือแจ้งให้บริษัท DCAP ทราบว่าไม่สามารถชำระเงินค่าหุ้นเพิ่มทุนได้ เนื่องจาก กฟน.ต้องนำเสนอ ครม.พิจารณาให้ความเห็นชอบก่อนดำเนินการเพิ่มทุนในโครงการดังกล่าว
และกระทรวงมหาดไทยได้แจ้งให้ กฟน.พิจารณาดำเนินการในกรณีสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ กฟน.มีความเห็นว่า กฟน.ต้องถือหุ้นในบริษัท DCAP ไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ซึ่ง กฟน.ได้ดำเนินการเจรจาและชี้แจงแล้ว และต่อมาสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ กฟน.ได้มีความเห็นสอดคล้องกับ กฟน.แล้ว
ทั้งนี้ คณะกรรมการ กฟน.ได้มีมติในการประชุมเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.53 เห็นชอบให้ กฟน.เพิ่มทุนในโครงการเพื่อขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าของบริษัท DCAP และอนุมัติงบประมาณดำเนินงานและงบประมาณจ่ายเงินประจำปี 2554 เพื่อจ่ายชำระค่าหุ้นจำนวน 201 ล้านบาท เมื่อ ครม.มีมติเห็นชอบในหลักการเพิ่มทุนแล้ว ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้พิจารณาแล้วไม่ขัดข้องที่จะให้ กฟน.เพิ่มทุนในโครงการดังกล่าวในสัดส่วนร้อยละ 30