นพ.มารุต มัสยวาณิช รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการจ่ายค่าตอบแทนพิเศษสำหรับพนักงานสถาบันการเงินเฉพาะกิจจากการดำเนินงานเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในปี 52 และปี 53 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ประกอบด้วย ธนาคารออมสิน, ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.), ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.), ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย(ธพว.) และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.) จำนวน 1 เท่าของเงินเดือน โดยให้จ่ายจากเงินงบประมาณประจำปี 2554 ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจแต่ละแห่งและเป็นการจ่ายในคราวเดียว
ทั้งนี้ ตามการเสนอของกระทรวงการคลังที่ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า จากผลงานการปล่อยสินเชื่อเพื่อฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในปี 52 และปี 53 ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ 5 แห่ง ปรากฏว่าสถาบันการเงินเฉพาะกิจดังกล่าวได้มีการดำเนินการจนสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนทั้งระดับกลางและระดับฐานราก ดังนั้นจึงเห็นสมควรจ่ายเงินตอบแทนพิเศษให้พนักงานของสถาบันการเงินเฉพาะกิจทั้ง 5 แห่ง เป็นจำนวน 1 เท่าของเงินเดือน เพื่อเป็นการตอบแทนและสร้างขวัญกำลังใจให้กับพนักงานจากการปฏิบัติงานดังกล่าว
"พนักงานของสถาบันการเงินทั้ง 5 แห่ง ได้ทุ่มเทและเสียสละในการดำเนินการเพื่อสนองนโยบายรัฐ ซึ่งในบางโครงการต้องอาศัยการออกพื้นที่ที่เข้าถึงได้ยากและมีความเสี่ยงภัย อีกทั้งโครงการตามนโยบายรัฐบาล ถือเป็นการเพิ่มปริมาณงานให้แก่สถาบันการเงินเฉพาะกิจที่นอกเหนือจากงานประจำ" นพ.มารุต กล่าว
นพ.มารุต กล่าวว่า ในภาพรวมการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินเฉพาะกิจที่มีส่วนในการกระตุ้นเศรษฐกิจในปี 52 - 53 มีผลการดำเนินงานโดยสรุปจากภาพรวมการดำเนินงานภายใต้แผนขับเคลื่อนสถาบันการเงินเฉพาะกิจเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยของสถาบันการเงินเฉพาะกิจทั้ง 5 แห่ง มีผลการอนุมัติสินเชื่อรวมในปี 52 ทั้งสิ้น 1,132,113 ล้านบาท คิดเป็น 127% ของเป้าหมาย
ส่วนในปี 53 อนุมัติสินเชื่อจำนวนทั้งสิ้น 1,340,082 ล้านบาท คิดเป็น 160% ของเป้าหมาย ซึ่งเป็นผลงานการปล่อยสินเชื่อที่สูงกว่าเป้าหมาย แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการปล่อยสินเชื่อเพื่อการกระตุ้นระบบเศรษฐกิจฐานรากได้ตามนโยบายรัฐบาลเป็นอย่างดี