ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของเกาหลีใต้ในเดือนก.พ.เพิ่มขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 11 เดือนในเดือนม.ค. เนื่องจากมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของยอดส่งออก ขณะที่ยอดขาดดุลด้านการเดินทางปรับตัวลดลง
ธนาคารกลางเกาหลีใต้กล่าวในแถลงการณ์วันนี้ว่า ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดอยู่ที่ระดับ 1.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับตัวเลขที่มีการปรับทบทวนที่ระดับ 154.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดเป็นมาตรวัดที่ใหญ่ที่สุดสำหรับการค้า การติดตามสินค้า บริการ และรายได้จากการลงทุน
เกาหลีใต้พยายามที่จะควบคุมการแข็งค่าของเงินวอนที่ได้รับปัจจัยหนุนจากกระแสเงินทุนต่างประเทศเพื่อรักษาระดับการแข่งขันด้านการส่งออก ซึ่งการส่งออกสินค้าไปต่างประเทศเป็นปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจในปีที่ผ่านมาขยายตัวได้สูงสุดนับตั้งแต่ปี 2545 และกระตุ้นให้เกิดแรงกดดันด้านราคาและหนุนให้ธนาคารกลางขึ้นอัตราดอกเบี้ยถึง 4 ครั้งนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม
ยอดส่งออกโดยรวมตามระบบการผ่านพิธีการศุลกากรในเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 16.9% จากปีก่อนหน้านี้ เมื่อเทียบกับตัวเลขที่มีการทบทวนซึ่งเพิ่มขึ้น 45.1% ในเดือนม.ค. ส่วนยอดนำเข้าไต่ระดับขึ้น 16.4% หลังจากที่ขยายตัวได้ 32.4% ในเดือนม.ค.
นอกจากนี้ ยอดส่งออกสินค้าไปต่างประเทศได้กระตุ้นรายได้ของบริษัทหลายแห่งซึ่งรวมถึงซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ โค ผู้ผลิตอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ จอแบน และโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ที่สุดของเอเชีย
สำหรับยอดเกินดุลการค้าในเดือนที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นแตะ 1.58 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากระดับที่มีการปรับทบทวนที่ 1.56 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนม.ค. รายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่เปิดเผยในวันนี้ระบุว่า ยอดขาดดุลบัญชีบริการซึ่งชี้วัดเม็ดหมุนเวียนด้านต้นทุนการเดินทาง การขนส่งและค่าลิขสิทธิ์อยู่ที่ 569 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนก.พ.เมื่อเทียบกับที่มีการปรับทบทวนที่ 1.64 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนม.ค.