นักวิเคราะห์คาดว่า ตลาดอินเตอร์แบงก์ของจีนจะเผชิญกับภาวะสภาพคล่องตึงตัวตั้งแต่เดือนพ.ค.นี้เป็นต้นไป หลังจากธนาคารกลางจีนปรับเพิ่มเพดานกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ (RRR) มากถึง 9 ครั้งนับจากปี 2553
นับตั้งแต่ต้นปี 2553 เป็นต้นมา การปรับขึ้นเพดานกันสำรองเงินฝาก 9 ครั้งส่งผลให้สภาพคล่องในตลาดอินเตอร์แบงก์ของจีนหดตัวเกือบ 3 ล้านล้านหยวน และการปรับขึ้นเพดานกันสำรองเงินฝาก 3 ครั้งเฉพาะในปีนี้ยังส่งผลให้สภาพคล่องในตลาดอินเตอร์แบงก์หดตัวลงกว่า 1 ล้านล้านหยวน
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ธนาคารกลางจีนได้ระบายเงินทุนออกจากตลาดอินเตอร์แบงก์ไปแล้วประมาณ 1.03 แสนล้านหยวน โดยผ่านการดำเนินการในตลาดเปิด ขณะที่เม็ดเงินทุนซึ่งไหลเข้าสู่ตลาดอินเตอร์แบงก์มีอยู่เพียง 1.09 แสนล้านหยวน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าธนาคารกลางจีนมีความตั้งใจที่จะควบคุมสภาพคล่องในระบบ
อย่างไรก็ตาม อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ประเภท 7 วันในตลาดอินเตอร์แบงก์ยังคงปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบ่งชี้ว่าสภาพคล่องในตลาดยังมีอยู่จำนวนมาก แต่ถึงกระนั้นก็ตาม การที่แนวโน้มของอัตราดอกเบี้ยอินเตอร์แบงก์ทั้งในระยะกลางและระยะยาวยังอยู่ในช่วงขาขึ้นนั้น สะท้อนให้เห็นว่า สภาพคล่องในตลาดอินเตอร์แบงก์ของจีนจะเริ่มตึงตัวในระยะกลางนี้
นักวิเคราะห์มองว่า ปัจจัยที่ทำให้สภาพคล่องยังคงมีอยู่เป็นจำนวนมากในตลาดอินเตอร์แบงก์นั้น มาจากการที่ธนาคารกลางจีนได้อัดฉีดเม็ดเงินโดยผ่านการดำเนินการในตลาดเปิด โดยในระหว่างวันที่ 19 พ.ย.2553 จนถึงวันที่ 4 มี.ค.ปีนี้ ธนาคารกลางจีนได้อัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ตลาดทั้งสิ้น 1.16 ล้านล้านหยวน และในไตรมาสแรกของปีนี้ ธนาคารกลางได้อัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ตลาดถึง 7.55 แสนล้านหยวน
ตัวเลขสถิติของธนาคารกลางจีนระบุว่า อาจจะมีเงินทุนไหลเข้าสู่ตลาดอินเตอร์แบงก์ราว 2.39 แสนล้านหยวนในเดือนพ.ค. และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 4.58 แสนล้านหยวนในเดือนมิ.ย. ก่อนที่จะปรับตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 1.00 แสนล้านหยวนในเดือนก.ค.และเดือนส.ค.
นับตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปีที่แล้ว ธนาคารกลางจีนได้ระบายเงินทุนออกจากตลาดไปแล้วกว่า 3.10 แสนล้านหยวน ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า สถานการณ์ในตลาดอินเตอร์แบงก์อาจจะอยู่ในขั้นวิกฤตหากธนาคารกลางจีนปรับเพิ่มเพดานกันสำรองเงินฝากอีก
บทวิเคราะห์โดย เจียง ยูเจียน จากสำนักข่าวซินหัว