เปรูเล็งไทยเป็นประตูการค้าสู่อาเซียน จ่อร่วมธุรกิจเหมือง-ประมง-ก่อสร้าง

นายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ประเทศเปรูได้มองเห็นถึงศักยภาพทางการค้าของไทยด้านการเป็นประตูและศูนย์กลางทางการค้าและการลงทุนของเปรูในอาเซียน เพราะไทยตั้งอยู่ในใจกลางของภูมิภาค อีกทั้งมีความสะดวกในการเข้าถึงประเทศอาเซียนอื่นๆ ในด้านเส้นทางคมนาคมทั้งทางถนน และทางอากาศ รวมถึงท่าเรือ โดยเฉพาะท่าเรือแหลมฉบัง

ขณะเดียวกัน ไทยเห็นว่าเปรูเป็นตลาดที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจและมีความสำคัญทางการค้าและการลงทุนของไทย เพราะเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์ และกระจายสินค้าไทยไปสู่ประเทศต่างๆ ในอเมริกาใต้ เนื่องจากมีที่ตั้งซึ่งมีความสำคัญทางยุทธศาสตร์การค้า โดยอยู่ระหว่างภูมิภาคอเมริกากลางและอเมริกาใต้ อีกทั้งมีการพัฒนาเครือข่ายเส้นทางคมนาคมที่เชื่อมต่อกันอย่างเป็นระบบ จากท่าอากาศยาน ท่าเรือ สู่ถนน และรถไฟ รวมทั้งมีทางหลวงเชื่อมจากเปรูเข้าสู่บราซิล เพื่อเชื่อมต่อระหว่างมหาสมุทรแปซิฟิกและมหาสมุทรแอตแลนติก ทำให้การขนส่งสินค้าและระบบโลจิสติกส์ ดำเนินการได้อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ

รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า โครงสร้างการค้าของไทยและเปรูมีลักษณะที่เกื้อกูลกัน สอดคล้องกับที่ 2 ประเทศได้มีข้อตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) ร่วมกันแล้ว โดยสินค้าที่ไทยต้องการนำเข้าจากเปรูส่วนใหญ่เป็นวัตถุดิบ ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกสำคัญของเปรู ได้แก่ แร่สังกะสี, ทองแดง, อะลูมิเนียม ในขณะที่ไทยส่งออกไปเปรูส่วนใหญ่เป็นสินค้าสำเร็จรูป เช่น รถปิกอัพ และข้าว

นอกจากนี้ ไทยยังสามารถร่วมมือกับเปรูพัฒนาอุตสาหกรรมที่ทั้ง 2 ฝ่ายมีศักยภาพและมีความสนใจร่วมกัน เช่น เหมืองแร่, ประมง, ก่อสร้าง, โลจิสติกส์ และการท่องเที่ยว