รมว.พาณิชย์สหรัฐวอนธุรกิจขนาดกลาง-ขนาดย่อมเพิ่มการส่งออกสินค้าไปเอเชีย

ข่าวต่างประเทศ Friday April 1, 2011 09:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายแกรี่ ล็อค รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ ออกมาเรียกร้องให้ผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเพิ่มการส่งออกสินค้าไปยังเอเชีย โดยเฉพาะประเทศจีน

นายล็อคกล่าวระหว่างการประชุมแนวโน้มธุรกิจเอเชียและแปซิฟิก (APBO) ซึ่งจัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยเซาท์เทิร์นแคลิฟอร์เนียว่า ผู้ประกอบธุรกิจในสหรัฐควรพยายามเพิ่มการส่งออก เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ที่ตั้งเป้าว่าจะเพิ่มการส่งออกสองเท่าภายใน 5 ปี ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้สหรัฐมีชัยในอนาคต

นายล็อคกล่าวว่าปัจจุบันการส่งออกช่วยส่งเสริมงาน 10 ล้านตำแหน่งในอเมริกา ซึ่งรวมถึง 700,000 ตำแหน่งในแคลิฟอร์เนีย โดยหนึ่งในสามของงานด้านการผลิตและหนึ่งในห้าของงานด้านการเกษตรมีส่วนเกี่ยวข้องกับการส่งออกโดยตรง ดังนั้นยิ่งบริษัทสหรัฐส่งออกมากก็ยิ่งมีการผลิตมากขึ้น และยิ่งผลิตมากขึ้นก็ยิ่งก็จะยิ่งมีการสร้างงานมากขึ้นเป็นเงาตามตัว

นอกจากนั้นการส่งออกยังเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยส่งเสริมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยมีสัดส่วนเกือบครึ่งหนึ่งของการขยายตัวของเศรษฐกิจตั้งแต่ปี 2552

รมว.พาณิชย์สหรัฐกล่าวว่า ผู้บริโภคกว่า 95% ของทั้งหมดทั่วโลกอยู่นอกสหรัฐ ถึงกระนั้นผู้ประกอบธุรกิจขนาดเล็กในสหรัฐกลับหลีกเลี่ยงตลาดต่างประเทศที่อาจทำกำไรได้อย่างงาม เนื่องจากขาดเงินทุน ความเชื่อมั่น หรือทั้งสองอย่าง โดยมีผู้ประกอบธุรกิจขนาดเล็กเพียง 1% ในสหรัฐที่ส่งออกสินค้าไปขายต่างประเทศ และกว่าครึ่งของกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจดังกล่าวส่งออกสินค้าไปยังตลาดเดียว โดยเฉพาะแคนาดาและเม็กซิโก

ความจริงแล้ว เอเชียและยุโรปมีตลาดใหญ่มากมาย หากผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในสหรัฐสามารถส่งออกสินค้าไปยังตลาดดังกล่าวได้ ชาวอเมริกันก็จะได้งานที่มีค่าแรงสูงขึ้น

นายล็อคกล่าวว่าสหรัฐส่งออกสินค้าไปยังเอเชียมากกว่าไปยุโรปเป็นครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว เนื่องจากเศรษฐกิจเอเชียขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง ดังนั้นเอเชียจึงเป็นตลาดที่มีอนาคตสำหรับผู้ประกอบธุรกิจในสหรัฐ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ