ออโต้ดาต้า คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยด้านอุตสาหกรรมรถยนต์ในสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ใหม่ในสหรัฐเดือนมี.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 16.9% ทำสถิติขยายตัวต่อปีได้ติดต่อกันนาน 7 เดือน โดยมีฟอร์ด มอเตอร์ โค ทำยอดขายแซงหน้าเจนเนอรัล มอเตอร์ส โค (จีเอ็ม) ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 13 ปี ขณะที่โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป มียอดขายลดลง 5.7%
ยอดขายรถใหม่ในสหรัฐประจำเดือนมี.ค.มีจำนวนรวมทั้งสิ้นที่ 1,246,623 คัน โดยฟอร์ดมียอดขายที่ 212,295 คันเพิ่มขึ้น 19.1% ส่วนจีเอ็มมียอดขาย 206,621 คัน เพิ่มขึ้น 9.9%
นอกจากนี้ ฟอร์ดมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ระดับ 17.0% แซงหน้าจีเอ็มที่ครองส่วนแบ่งอยู่ 16.6% ขณะที่โตโยต้ายังคงครองส่วนแบ่งในตลาดสหรัฐได้เป็นอันดับ 3 ที่ 14.1% หลังทำยอดขายได้ 176,222 คันในเดือนมี.ค.
สำหรับไครสเลอร์ กรุ๊ป แอลแอลซี มียอดขายขยายตัวขึ้น 30.9% แตะ 121,230 คัน รั้งตำแหน่งบริษัทรถรายใหญ่อันดับ 5 ด้วยส่วนแบ่งตลาดที่ 9.7% ตามหลังฮอนด้า มอเตอร์ โค ที่มียอดขายเพิ่มขึ้น 23.5% แตะ 133,650 คัน ด้วยตัวเลขส่วนแบ่งที่ระดับ 10.7%
ทั้งนี้ ยอดขายโดยรวมของค่ายรถบิ๊กทรีเพิ่มขึ้น 17.7% แตะ 540,146 คัน โดยครองส่วนแบ่งในตลาดรถใหม่ของสหรัฐ 43.3% ในเดือนมี.ค. เทียบกับปีก่อนหน้านี้ที่ระดับ 43.0%
สำหรับบริษัทรถยนต์จากญี่ปุ่นรายอื่นๆ สามารถทำยอดขายเพิ่มขึ้นในระดับตัวเลขสองหลัก ได้แก่ นิสสัน มอเตอร์ โค มียอดขายทะยานขึ้น 26.9% แตะ 121,141 คัน มาสด้า มอเตอร์ คอร์ป มียอดขายเพิ่มขึ้น 33.3% แตะ 30,905 คัน มิตซูบิชิ มอเตอร์ คอร์ป มียอดขายเพิ่มขึ้น 39.1% แตะ 7,560 คัน และซูซูกิ มอเตอร์ คอร์ป มียอดขายขยายตัว 11.2% แตะ 2,497 คัน สำนักข่าวเกียวโดรายงาน