คลังเผยครม.อนุมัติมาตรการด้านการเงิน-ภาษีช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยปี 54

ข่าวเศรษฐกิจ Monday April 4, 2011 15:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้กำหนดมาตรการในการให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน แก่ผู้ประสบภัย อุทกภัย วาตภัยและดินถล่ม ในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ปี 54 ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายและเดือดร้อนรุนแรงแก่เกษตรกร ประชาชน และผู้ประกอบการอย่างกว้างขวาง โดยที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ได้เห็นชอบมาตรการดังกล่าว แบ่งออกเป็น 3 มาตรการ

ประกอบด้วย มาตรการด้านการเงิน โดยธนาคารกรุงไทย (KTB) และสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ อาทิเช่น ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ได้ให้ความช่วยเหลือในการ ลดดอกเบี้ย ขยายระยะเวลาชำระคืนเงินต้น ผ่อนผันการพักชำระหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย จำหน่ายลูกหนี้เป็นหนี้สูญกรณีเสียชีวิตจากอุทกภัย ให้เงินกู้ใหม่เพื่อฟื้นฟูการประกอบอาชีพและพัฒนาคุณภาพชีวิตตลอดจน ปลูกสร้างหรือซ่อมแซมอาคารและที่อยู่อาศัย และลดหย่อนหลักประกันการกู้เงินจากหลักเกณฑ์ปกติ

มาตรการด้านภาษี เป็นการบรรเทาภาระภาษีแก่ผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 54 เป็นต้นไป โดยจะยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้ที่ผู้ประสบภัยได้รับจากรัฐบาลหรือการบริจาค รวมทั้งยกเว้นภาษีนิติบุคคลสำหรับเงินค่าสินไหมทดแทนที่ได้รับจากบริษัทประกันภัยด้วย

นอกจากนั้น ผู้บริจาคที่เป็นบุคคลธรรมดายังได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้ซึ่งเมื่อรวมกับเงินบริจาคอื่นจะต้องไม่เกินร้อยละ 10 ของเงินได้หลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อน และหากเป็นนิติบุคคลก็ได้รับยกเว้นเช่นกันโดยเมื่อรวมกับรายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะอื่นๆ ก็ต้องไม่เกินร้อยละ 2 ของกำไรสุทธิ ทั้งนี้ ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ประกอบการที่นำสินค้าไปบริจาคด้วย

นอกจากนั้น ครม.ได้เห็นชอบให้ขยายเวลาการยื่นแบบแสดงรายการภาษีและชำระภาษีสำหรับบุคคลธรรมดาจาก 31 มี.ค.เป็น 31 พ.ค.54 โดยภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะของผู้ประกอบการก็ให้ขยายการยื่นแบบแสดงรายการในเดือน มี.ค. และ เม.ย. เป็น 31 พ.ค.เช่นกัน

มาตรการด้านความช่วยเหลือของกรมบัญชีกลาง กรมบัญชีกลางได้ขยายวงเงินทดรองราชการในอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ชุมพร นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ตรัง กระบี่ สงขลา และพังงา จังหวัดละ 50 ล้านบาทเป็นจังหวัดละ 100 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ