ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (7 เม.ย.) แม้ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ขณะที่เงินเยนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจากเกิดแผ่นดินไหว 7.4 ริกเตอร์ที่ญี่ปุ่นในช่วงค่ำวานนี้
ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลง 0.18% แตะที่ 1.4306 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ 1.4332 ดอลลาร์สหรัฐ ขระที่ค่าเงินปอนด์อ่อนตัวลง 0.08% แตะที่ 1.6318 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6331 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.63% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 84.920 เยน จากระดับ 85.460 เยน และร่วงลง 0.27% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9159 ฟรังค์ จากระดับ 0.9184 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.16% แตะที่ 1.0456 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0439 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ขยับลง 0.05% แตะที่ 0.7788 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7792 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลงแม้ธนาคารกลางยุโรปประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เป็น 1.25% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2551 หรือในรอบเกือบ 3 ปี
นักวิเคราะห์จากยูบีเอส เอจีกล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงแม้ธนาคารกลางยุโรปประกาศขึ้นดอกเบี้ยนั้น มาจากถ้อยแถลงของนายฌอง-คล้อด ทริเชต์ ประธานธนาคารกลางยุโรปที่ว่า "การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ยตามมีอีกหลายๆครั้ง เหมือนกับที่นักลงทุนคาดการณ์ไว้ ธนาคารกลางยุโรปเพียงแต่ดำเนินการตามความจำเป็นเพื่อรักษาตัวเลขเงินเฟ้อให้มีเสถียรภาพเท่านั้น"
นักลงทุนเข้าซื้อเงินเยนเพราะมองว่าเป็นสกุลเงินที่ปลอดภัย หลังจากเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 7.4 ริกเตอร์ที่จังหวัดมิยากิ ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นเมื่อเวลาประมาณ 21.32 น.ตามเวลาไทยเมื่อวานนี้ โดยพื้นที่ดังกล่าวได้รับความเสียหายอยู่ก่อนแล้วจากเหตุแผ่นดินไหว 9 ริกเตอร์และคลื่นสึนามิซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา
ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ประกาศจัดตั้งโครงการเงินกู้ฉุกเฉินมูลค่า 1 ล้านล้านเยนเพื่อช่วยเหลือธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิ นอกจากนี้ บีโอเจยังมีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0-0.1% เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของรัฐบาลญี่ปุ่นในเดือนมี.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.2% จากเดือนก.พ. แตะระดับ 1.11630 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน หลังจากญี่ปุ่นเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราเพื่อสกัดการแข็งค่าของเงินเยน
ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กไม่ค่อยให้ความสนใจกับข่าวที่ว่ารัฐบาลโปรตุเกสได้ยื่นขอความช่วยเหลือด้านการเงินจากสหภาพยุโรป (อียู) เนื่องจากวิกฤตการณ์การเมืองภายในประเทศส่งผลให้ต้นทุนการกู้ยืมของรัฐบาลพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ค่าเงินปอนด์อ่อนตัวลงหลังจากธนาคารกลางอังกฤษมีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.5% ในการประชุมเมื่อวานนี้ แม้ว่าจะมีความวิตกกังวลเพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อก็ตาม นอกจากนี้ ธนาคารกลางอังกฤษยังได้ตัดสินใจคงขนาดของโครงการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) มูลค่า 2 แสนล้านปอนด์ (3.25 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ)
ส่วนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐได้แรงหนุนจากรายงานที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 2 เม.ย.ปรับตัวลง 10,000 ราย แตะระดับ 382,000 ราย สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐกำลังฟื้นตัวขึ้น