สเปนออกโรงปฏิเสธกระแสข่าวที่ว่าสเปนกำลังจะกลายเป็นประเทศต่อไปในยุโรปที่เผชิญวิกฤติหนี้สาธารณะ หลังจากที่ประเทศเพื่อนบ้านอย่าง โปรุเกส เพิ่งยื่นคำร้องขอความช่วยเหลือทางการเงินจากสหภาพยุโรป (อียู) อย่างเป็นทางการไปเมื่อวานนี้
เอเลนา ซัลกาโด รัฐมนตรีเศรษฐกิจและการคลังของสเปน กล่าวยืนยันนอกรอบการประชุมรมว.คลังอียูอย่างไม่เป็นทางการที่เมืองโกดอลโล ใกล้กับเมืองหลวงของประเทศฮังการีว่า สเปนปลอดความเสี่ยงจากวิกฤติหนี้โดยสิ้นเชิง
คำกล่าวของรัฐมนตรีสเปนมีขึ้นหลังจากที่วานนี้ นายออลลี เรห์น กรรมาธิการฝ่ายกิจการเศรษฐกิจและการเงินยุโรป แสดงการสนับสนุนสเปน ด้วยการแสดงความเชื่อมั่นว่า สเปนจะไม่ต้องการความช่วยเหลือจากภายนอก
ทั้งนี้ มีความวิตกกังวลว่า เงินในกองทุนกู้วิกฤติของอียูกำลังจะหมดถ้าวิกฤติหนี้สาธารณะลุกลามต่อไปยังสเปน ซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 4 ในกลุ่มประเทศที่ใช้เงินสกุลยูโร
เคลาส์ เรกลิง ซีอีโอของกองทุนเสถียรภาพการเงินยุโรป (European Financial Stability Facility: EFSF) ซึ่งเป็นกองทุนช่วยเหลือฉุกเฉินของยูโรโซน ได้แสดงความเชื่อมั่นเช่นกันว่า วิกฤติหนี้จะไม่แพร่จากโปรตุเกสไปยังสเปน พร้อมระบุว่า นักลงทุนเข้าใจความแตกต่างระหว่างสองประเทศดี
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า รัฐมนตรีคลังอียูมีมติเห็นชอบที่จะให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่โปรตุเกสภายใต้เงื่อนไขที่เข้มงวด โดยนายโวล์ฟกัง ชอยเบิล รมว.คลังเยอรมนีเผยว่า ที่ประชุมไม่ได้หารือถึงรายละเอียดที่เฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับความช่วยเหลือดังกล่าว แต่เรห์นกล่าวว่า จากการประเมินคร่าวๆในเบื้องต้นนั้น โปรตุเกสอาจต้องการเงินกู้ถึง 8 หมื่นล้านยูโร (1.05 แสนล้านดอลลาร์)
ทั้งนี้ โปรตุเกสเป็นประเทศที่ 3 ในยูโรโซน ต่อจากกรีซและไอร์แลนด์ ที่ต้องขอความช่วยเหลือด้านการเงินจากอียู