บริษัทสหรัฐเริ่มทยอยรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสแรกของปี 2554 ในสัปดาห์นี้ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า บริษัทเหล่านี้จะรายงานผลประกอบการที่ดีเกินคาด โดยบริษัทอัลโค อิงค์ ผู้ผลิตอลูมิเนียมรายใหญ่ของโลกจะรายงานผลประกอบการในวันจันทร์
นักวิเคราะห์จากเครดิตสวิสคาดว่า อัลโคจะมีผลประกอบการราว 27 เซนต์ต่อหุ้น สูงกล่าวปีที่แล้วถึงสองเท่าที่ระดับ 10 เซนต์ต่อหุ้น โดยคาดว่า อัลโคและบริษัทผู้ผลิตวัตถุดิบรายอื่นๆจะได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก โดยเฉพาะโรงงานอุตสาหกรรมที่ต้องการวัตถุดิบเพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกันคาดว่า ผลประกอบการของเอ็กซอน โมบิล คอร์ป จะอยู่ที่ 1.92 ดอลลาร์ต่อหุ้น สูงกว่าปีที่แล้วประมาณ 44% เพราะได้ปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นเหนือระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในช่วงไตรมาสแรก อย่างไรกตาม คาดว่าราคาน้ำมันที่สูงขึ้นอาจจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจบางกลุ่ม โดยเฉพาะธุรกิจสายการบิน
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์คาดว่า ผลประกอบการของอุตสาหกรรมบางประเภทจะอ่อนตัวลง รวมถึงบริษัทสื่อสารโทรคมนาคมและสาธารณูปโภค
ก่อนหน้านี้นักลงทุนกังวลว่า ฤดูการรายงานผลประกอบการของภาคเอกชนจะถูกบดบังด้วยความวิตกกังวลที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะได้รับผลกระทบจากความเป็นไปได้ที่รัฐบาลสหรัฐอาจต้องยุติการให้บริการแก่ประชาชนชั่วคราว แต่สถานการณ์ดังกล่าวได้พลิกผลันไปในทางที่ดีเมื่อสมาชิกสภาคองเกรสจากพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครต สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับงบประมาณรายจ่ายของรัฐบาลกลางสหรัฐได้ทันกำหนดเส้นตายในเวลาเที่ยงคืนของวันศุกร์ตามเวลาสหรัฐ (ราว 11.00 น.ของวันเสาร์ ตามเวลาประเทศไทย) ซึ่งช่วยให้หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐไม่ต้องปิดทำการเพราะขาดงบประมาณอย่างที่หลายฝ่ายหวั่นเกรง
การที่สมาชิกสภาคองเกรสจากพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตสามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ในเรื่องดังกล่าวทำให้ทางการสหรัฐสามารถเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจได้ตามกำหนดในสัปดาห์นี้ รวมถึงการรายงานข้อมูลการค้าระหว่างประเทศ ดัชนีราคาผู้บริโภค ยอดค้าปลีก ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม และรายงานสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจ