กรมสรรพสามิต ปรับปรุงโครงสร้างกฎหมายภาษี 5 ฉบับอย่างบูรณาการ

ข่าวเศรษฐกิจ Monday April 11, 2011 15:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า กรมสรรพสามิตมีนโยบายให้มีการศึกษาปัญหาและปรับปรุงโครงสร้างกฎหมายภาษีสรรพสามิตอย่างบูรณาการ (Comprehensive Excise Tax Reform) เนื่องจากได้เล็งเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของระบบการค้าและโครงสร้างเศรษฐกิจทั้งในระดับประเทศและระดับสากลที่มีการปรับเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วในยุคของโลกการค้าไร้พรมแดน (Free Trade Area)

ดังนั้น เพื่อให้การปรับปรุงกฎหมายภาษีสรรพสามิตครั้งนี้สัมฤทธิ์ผลสูงสุด สอดคล้องกับพัฒนาระบบเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของไทยในปัจจุบัน และแผนงานการสร้างความโปร่งใสของกรมสรรพสามิต จึงเห็นควรปรับปรุงโครงสร้างกฎหมายภาษีสรรพสามิต 5 ฉบับอย่างบูรณาการ คือ พระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2527 พระราชบัญญัติพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2527 พระราชบัญญัติสุรา พ.ศ.2493 พระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ.2509 และพระราชบัญญัติไพ่ พุทธศักราช 2486

การปรับปรุงกฎหมายภาษีสรรพสามิตฯ มุ่งเน้นให้ครอบคลุม 6 ประเด็นหลัก ดังต่อไปนี้ ความสะดวกและชัดเจนของกฎหมาย (Simplicity) โดยการรวบรวมกฎหมายภาษีสรรพสามิตมาจัดหมวดหมู่ เพื่อสร้างความชัดเจน ต่อผู้เสียภาษีสรรพสามิตและเจ้าหน้าที่ผู้ปฎิบัติ, ความเท่าเทียมและเป็นธรรม (Equity and Fairness) โดยการปรับระบบการจัดเก็บภาษีให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน, ความโปร่งใส (Transparency) โดยการลดดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่และสร้างความชัดเจนของระบบประเมินตนเองในประมวลกฎหมายภาษีสรรพสามิต

การเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการบริหารการจัดเก็บภาษีสรรพสามิต (Competent tax administration) โดยลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็นต่อการบริหารจัดเก็บภาษีสรรพสามิต, การป้องกันการหลีกเลี่ยงภาษี (Anti-tax Avoidance) เพิ่มเติมกฎหมายเพื่อต่อต้านการหลีกเลี่ยงภาษีสรรพสามิต และการก้าวสู่ความเป็นสากล (Internationalization) โดยการปรับแก้กฎหมายเพื่อให้การสอดรับกับการเข้าเป็นประชาคมอาเซียนในปี 2015

ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินการจัดทำโครงการจัดทำประมวลกฎหมายภาษีสรรพสามิต (Uniform Excise Tax Code) เป็นการพัฒนากฎหมายภาษีสรรพสามิตให้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญและมีประสิทธิภาพทางการคลังของรัฐบาล รวมถึงสามารถส่งผลต่อการพัฒนาระบบเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของไทยอย่างยั่งยืน กรมสรรพสามิตจึงเล็งเห็นความสำคัญที่จะมีความร่วมมือกับสถาบันวิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งเป็นสถาบันของภาครัฐที่มีชื่อเสียงเป็น ที่ยอมรับจากทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ในการเข้าร่วมดำเนินการโครงการจัดทำประมวลกฎหมายภาษีสรรพสามิตครั้งนี้ โดยจะมีระยะเวลาดำเนินการของโครงการฯ จำนวน 7 เดือน

"การศึกษาและปรับปรุงกฎหมายภาษีสรรพสามิตเป็นประมวลกฎหมายภาษีสรรพสามิตซึ่งได้รับความร่วมมือจากสถาบันวิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในครั้งนี้ จะทำให้มีการปรับปรุงและแก้ไขกฎหมายภาษีสรรพสามิตให้เป็นปัจจุบัน สอดคล้องกับหลักการพื้นฐานกฎหมายภาษีอากรที่ดี 3 ประการ คือ ความสะดวกง่ายดาย ความเท่าเทียมยุติธรรม และความโปร่งใส ให้เป็นที่ยอมรับต่อสากลและกลายเป็นเครื่องมือสำคัญทางด้านการคลังของรัฐบาลและตอบสนองต่อการพัฒนาทั้งการค้าและอุตสาหกรรมของไทยให้ก้าวสู่การแข่งขันระดับสากลอย่างยั่งยืนต่อไป" อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ